หุ้นตัวแรงมาแล้ว!

แรงซื้อที่เข้ามาต่อเนื่องตลอดวานนี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยถูกพูดถึงอีกครั้ง พร้อมกับมีการเอ่ยถึงหุ้นตัวแรงเจ้าเก่าขึ้นมามากมาย


แรงซื้อที่เข้ามาต่อเนื่องตลอดวานนี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยถูกพูดถึงอีกครั้ง พร้อมกับมีการเอ่ยถึงหุ้นตัวแรงเจ้าเก่าขึ้นมามากมาย “โมนิก้า” เลยขอกระโดดเข้าร่วมวงมโหรีกับเขาด้วยคน เพราะบรรยากาศลงทุนค่อนข้างสดใส แถมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติบินเข้าไทยเป็นว่าเล่น จึงกลายเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4 จะมีความคึกคักเป็นพิเศษเจ้าค่ะ

ด้วยตรรกดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,665.74 จุด บวกไป 11.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.25 หมื่นล้านบาท คือบันไดที่นำทางไปสู่การทดสอบแนวต้าน 1,700 จุด หลังพิสูจน์ให้นักเล่นได้เห็นการยืนปิดเหนือแนวต้าน 1,650 จุดไม่ได้มาเล่น ๆ ผสานกับสตอรี่เกี่ยวกับหุ้นรายตัวก็แจ่มแมวเหลือเกิน เดี๊ยนถึงมองการขึ้นไปทำ Triple Top ที่บริเวณยอดดังกล่าว มันเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มาก ๆ นะจะบอกให้

เนื่องจากสัญญาณเทคนิคก็พูดถึงเรื่องดังกล่าวไว้ชัดว่า  นี่คือรูปแบบกราฟที่พบในตลาดแนวโน้มขาขึ้น และมีจุดสังเกตง่าย ๆ คือราคามีการชนแนวต้านและเกิดอาการสวิงลงมา ต่อจากนั้นมีการสวิงราคาขึ้นไปชนแนวต้านอีก 2 ครั้ง จึงทำให้เกิดยอดที่ 3  และระดับความสูงของยอด 3 ดังกล่าวจะอยู่ในระนาบเดียวกัน! จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” ดีใจจนเนื้อเต้นตุบ ๆ เพราะสิ่งที่เคยวาดฝันใกล้เป็นจริงนะพ่อคุณ!

เหมือนกับการไต่เพดานบินรอบใหม่ของหุ้น EA ก็มีลักษณะก่อตัวคล้ายกับเรื่องที่เดี๊ยนเกริ่นนำ และถ้ามองจากแพทเทิร์นแรกจะเห็นความเป็นไปได้ที่จะว่า 90 บาทขึ้นไปแบบสบาย ๆ และถ้ามองเป็นแพทเทิร์นที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะเห็นความเป็นไปได้อยู่ที่ 100 บาท เพราะตรงจุดนี้มีเรื่องของ “คาร์บอนเครดิต” เป็นตัวซัพพอร์ตอีกหนึ่งแรง ซึ่งส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 87.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.02 พันล้านบาทน่าสนใจสุด ๆ นะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น MTC ก็เข้าข่ายดังกล่าวด้วยเหมือนกัน และถ้าดูแพทเทิร์นแบบเจาะลึกจะยอดแรกที่ใกล้สุดอยู่แถว 45 บาท ขณะที่แพทเทิร์นใหญ่จะอยู่ที่บริเวณ 50 บาท และตรงจุดนี้เองที่ได้แรงเสริมจากเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวบิ้วอารมณ์ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเมื่อเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 43.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.19 พันล้านบาทเจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ไม่แปลกใจที่มีแรงซื้อเข้ามาไล่หุ้น JMT อีกรอบ เพราะเมื่อดูจากเม็ดเงินในระบบที่มีแนวโน้มสะพัดขึ้นกว่าเมื่อก่อน ย่อมส่งผลดีต่อการตามเก็บหนี้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อผสานกับการเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนกับแบงก์หลากสี ก็ส่งผลให้การทำ Triple Top ที่บริเวณ 85 บาทไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการทำไฮที่ 78.75 บาท ก่อนจะย่อตัวลงปิดที่ 77.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 600 ล้านบาท คือการทดสอบแรงขายก่อนขึ้นน่ะซี

ส่วนที่น่าลุ้นสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ คงต้องมองไปที่หุ้น DOHOME เพราะราคาหุ้นขยับช้ากว่าพวกเดียวกัน แถมแพทเทิร์นของหุ้นก็ลุ้นขึ้นไปทำ “ทริปเปิลท็อป” ที่บริเวณ 16 บาทเสียด้วย! ผสานกับอารมณ์ของนักเล่นมองไปที่เรื่องกำลังซื้อฟื้นตัว “โมนิก้า” คงเลือกหุ้นตัวนี้เป็นทางเลือกในการเล่นลำดับต้น ๆ และการยืนปิดของหุ้นที่ระดับ 14.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 635 ล้านบาท ก็เป็นการเทรดบน PE 28 เท่าเองจ้า!

เรื่องข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นน้องใหม่อย่าง CH ขึ้นมาทันที! เพราะเป็นที่ทราบดีว่า กำไรครึ่งปี 65 เท่าปีทั้งปี 64 และไตรมาส 3-4 เป็นช่วงพีคของธุรกิจ แต่เผอิญเดี๊ยนเป็นคนคอนเซอร์เวทีฟ จึงขอประเมินจากกำไรต่อหุ้นครึ่งปีอยู่ที่ 0.11 บาท และถ้าประเมินทั้งปีกำไรจะอยู่ที่ 0.22 บาท ต่อจากนั้นเทียบกับ PE 30 เท่า (พีอีกลุ่มอาหาร) ก็จะได้ราคาเป้า 6.60 บาท เลยทำให้ราคาปิดที่ 4.14 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.37 พันล้านบาทโดนใจขึ้นมาทันที..จริงหรือไม่ ลองไปคิดกันยาว ๆ นะคะ

ปิดท้ายกันที่เรื่องมโนของขาเผือกที่เม้าท์ถึงการแต่งตั้งซีอีโอเพื่อเข้ามาบริหารงาน OR กันสักหน่อย! เพราะสิ่งที่เขาพูดในทำนองนายทุนไฟฟ้าอยู่เบื้องหลังการผลักดันให้คนที่ไม่ใช่ลูกหม้ออย่าง “ดิษทัต” ข้ามมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ขี้จุ๊เกินไปหน่อย! เพราะสิ่งที่เดี๊ยนรับรู้มาตลอดคือ นายทุนไฟฟ้าไม่เคยคิดอยากจะกินกาแฟเลยจ้า..จึงน่าจะเลิกเสี้ยมกันเสียที..ทราบแล้วบอกพวกปากมอมต่อด้วยเจ้าค่ะ

Back to top button