วันเก็บหุ้น

แม้วานนี้จะมีการรินขายหุ้นออกมาตั้งแต่เปิดเทรดช่วงเช้า แต่ก็มีแรงรับหุ้นเข้ามาเป็นระลอกตลอดทั้งวัน จนดัชนีประคองตัวปิดไปที่ระดับ 1,562.68 จุด


แม้วานนี้จะมีการรินขายหุ้นออกมาตั้งแต่เปิดเทรดช่วงเช้า แต่ก็มีแรงรับหุ้นเข้ามาเป็นระลอกตลอดทั้งวัน จนดัชนีประคองตัวปิดไปที่ระดับ 1,562.68 จุด ลบไป 7.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.18 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เวิร์กมาก ๆ ในมุมของการทดสอบแรงขาย เพราะชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนกล้าที่จะซื้อสวนเมื่อเห็นราคาหุ้นลงมาถึงจุดรับ จึงมีโอกาสที่จะเห็นดัชนีเด้งสวย ๆในสัปดาห์หน้าไงละคะ

สถานการณ์ตอนนี้จึงเป็นวันเก็บหุ้นเพื่อทำกำไรในสัปดาห์หน้า เพราะเมื่อประเมินจาก “ความเสี่ยง” กับ “ผลตอบแทน” ที่จะได้รับในไม่กี่วัน ก็ค่อนข้างคุ้มค่าที่จะลองดูสักตั้ง! แถมการเล่นหุ้นในจังหวะนี้เหมือนเป็นการเดาอารมณ์ตลาดหุ้นไปในตัว จึงน่าจะเป็นการเสริมภูมิความรู้ให้กับแฟนคลับแบบเต็ม ๆ เดี๊ยนถึงกล้าเชียร์ให้ขาลุยเล่นกันอีกยกนะจะบอกให้

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะหันไปมองหุ้นต่ำบุ๊กเป็นอันดับแรก เพราะหุ้นเหล่านั้นถูกขายหนักเป็นเวลานาน จนถึงเวลาช้อนหุ้นเข้าพอร์ตเพื่อเล่นรอบอีกครั้ง และเที่ยวนี้ก็มีหุ้นที่น่าสนใจอยู่หลายตัวด้วยกัน เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินสิ่งที่เล่าให้ฟังน่าเชื่อถือขนาดไหน? เพราะเดี๊ยนไม่อยากบังคับให้ใครเชื่อตามความคิดของอีฉันแบบไม่ได้ไตร่ตรองน่ะซี

เหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ BBL ก็เป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจขึ้นมาทันที เพราะเมื่อดูจากการขยับตัวของราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ราคาต่ำสุดของการเล่นอยู่ที่ 132.50 บาท ส่วนราคาสูงสุดอยู่ที่ระดับ 140 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดยืนอยู่ที่ 136 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 844 ล้านบาท ท่ามกลาง BV 259 บาท มันน่าสนใจเหมือนที่น้องโมบอกไหมคะ

ส่วนคนที่ชอบเล่นหุ้นต่ำสิบสภาพคล่องสูง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูหุ้น TTB เป็นตัวเลือกถัดมาแบบไม่ลังเลใจ เพราะกรอบขยับตัวในช่วงสองเดือนก็อยู่ที่บริเวณ 1.20-1.30 บาท เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1.20 บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165 ล้านบาท น่าจะคุ้มค่ากับลงทุน แถมหุ้นมีบุ๊กแวลูสูงถึงระดับ 2.20 บาท แบบนี้..ไม่เล่นสักรอบ ก็คงเสียดายนะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นโรงไฟฟ้า EGCO ก็มีตัวเลขที่น่าสนใจหลายตัวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น BV ที่อยู่ในระดับ 235 บาท รวมทั้งเงินปันผลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ก็อยู่ในระดับ 4% หรือแม้กระทั่ง PE ล่าสุดที่เทรดในระดับ 16 เท่า ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ราคาหุ้นที่ระดับ 162 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 320 ล้านบาท น่าสนใจขึ้นมาทันทีในมุมของนักเล่นสไตล์แวลูนะคะ

เช่นเดียวกับการย่อตัวลงต่อเนื่องของหุ้น BCP กลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากล้วงลึกข้อมูลให้ได้มากสุด เลยทำให้เห็น “จุดดี” มากกว่า “จุดเสีย” และทำให้เรื่องสต๊อกน้ำมันกลายเป็นทางผ่านสำหรับการช้อนหุ้น เพราะเมื่อดูจากยีลด์ในช่วงที่หุ้นลงมาเรื่อย ๆ ขึ้นไปแตะดับ 6% โดยที่หุ้นเทรดบนพีอี 4 เท่า และยังมีบุ๊กอยู่ที่ระดับ 45 บาท เลยทำให้ราคาปิดที่ 30 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาท โดนใจอย่างแรงพะยะค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ขอมองไปยังหุ้น IRPC เป็นรายต่อไปในทันที และไม่ต้องสาธยายอะไรให้ยืดยาวเหมือนกับรายต้น ๆ เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 9 หมื่นรายรู้อยู่เต็มอกว่า ช่วง 1 ปีราคาหุ้นลงมาแตะระดับ 3 บาท 3 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นไปถึง 3.50 บาท ถึง 2 ครั้งด้วยกัน เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ระดับ 3.04 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 188 ล้านบาท ดาวน์ไซด์ต่ำมาก ๆ นะออเจ้า!

ตรงกันข้ามกับในรายของ STA เพราะรายนี้โดนถล่มขายจนราคาหุ้นทำ “โลว์แล้ว โลว์อีก” เดี๊ยนเลยไปสืบค้นข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อประเมินจุดต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นอยู่ตรงไหน? ผลปรากฏว่า ราคาหุ้นเคยต่ำกว่า 10 บาทนิดหน่อย ซึ่งปีนั้นบริษัททำกำไรแค่ 2 พันล้าน และมีกำไรต่อหุ้น 1.34 บาท ขณะที่ครึ่งแรกของปี 65 กวาดกำไรไป 2.60 พันล้าน และมีกำไรต่อหุ้น 1.73 บาท จึงอยากถามนักเล่นว่า การยืนปิดที่ 18.40 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาท ท่ามกลางบุ๊ก 31 บาท เหมาะต่อการทยอยเก็บไหม?

Back to top button