AWC ขี่ม้าเลียบค่าย.!?

ในช่วงระหว่างที่ธุรกิจโรงแรมเล็ก ๆ หรือ SME ซึ่งจำกัดจำเขี่ยในเรื่องของเงินทุน พยายามดิ้นรนหนีตายจากวิกฤตโควิด


ในช่วงระหว่างที่ธุรกิจโรงแรมเล็ก ๆ หรือ SME ซึ่งจำกัดจำเขี่ยในเรื่องของเงินทุน พยายามดิ้นรนหนีตายจากวิกฤตโควิด แต่สำหรับบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ในกลุ่ม “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” ซึ่งมีสายป่านยาว เงินทุนหนาเต็มหน้าตัก ถือเป็นนาทีทองที่จะได้ “ช้อปของดี…ราคาถูก” ซึ่งตอนนี้มีให้เลือกเยอะเสียด้วยสิ..!!

เลยเป็นที่มาของการประกาศตั้งกองทุนวงเงินสูงถึงหมื่นล้านบาท เพื่อกว้านซื้อโรงแรมที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในยุคโควิด รองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย…

ล่าสุด AWC ก็ส่งบริษัทลูกที่ชื่อว่า บริษัท เชียงใหม่ โฮเทลล์ คอลเลกชั่น จำกัด ไปซื้อโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ขนาด 130 ห้องพัก ตั้งอยู่บนถนนช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ติดกับเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ จากกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT มูลค่ารวมกว่า 944 ล้านบาท เพื่อเสริมแกร่งพอร์ตโรงแรมในภาคเหนือ…

โดยธุรกรรมดังกล่าว แบ่งเป็น สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรมของโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) เป็นจำนวนเงิน 467.1 ล้านบาท

และสัญญาจะซื้อจะขายกรรมสิทธิ์ที่ดินข้างเคียงโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ และสิ่งปลูกสร้างจากบริษัท ดุสิต ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 130 ล้านบาท

ก็ถือเป็นโรงแรมล่าสุดที่จะเข้ามาอยู่ในพอร์ตของ AWC..!!

หลังจากนั้น DUSIT ก็จะย้อนกลับมาเช่าโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ จาก AWC เพื่อไปบริหารจัดการต่อ เป็นระยะเวลา 3 ปี และให้สิทธิในการต่อระยะเวลาอีก 3 ปี มูลค่ารวม 108 ล้านบาท

โอเค…ดีล DUSIT ขายโรงแรมให้กับ AWC ก็ว่ากันไป แต่อีกจุดที่น่าสนใจ…เอ๊ะ ดีลนี้จะเป็นสารตั้งต้นให้  AWC เข้ามาถือหุ้น DUSIT ในอนาคตหรือเปล่าน้อ..?? อันนี้น่าคิด

เหตุผลที่จะมาซัพพอร์ตความเป็นไปได้นั้น เป็นเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เครือ DUSIT แทบไม่มีความเคลื่อนไหวเลย จะมีก็แค่บิ๊กโปรเจกต์มูลค่า 4.6 หมื่นล้านบาท กับ “โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” บนที่ดินมุมถนนสีลม-พระราม 4 ประกอบด้วย โรงแรม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า มีกำหนดเปิดเฟสแรกในปี 2566 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ส่วนโครงการอื่น ๆ ไม่มีให้เห็นแล้วนะ…

จึงไม่แคล้วถูกตีความไปว่า เป็นการส่งสัญญาณบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ผู้ถือหุ้นเบอร์ 1 จะถอยแล้วหรือเปล่า..?

ขณะที่พันธมิตรของ DUSIT ก็มีแค่ CPN ซึ่งมีความเก่งกาจในด้านวิศวกรรมการเงิน อ้อ…มีบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) หรือ ANAN (ในฐานะผู้ถือหุ้น DUSIT เบอร์ 3) ก็น่าจะมาช่วยเรื่องการออกแบบให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้

แต่หาก DUSIT ได้ AWC มาเป็นพันธมิตรเพิ่มอีกราย…โอเค นอกจาก AWC มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนแล้ว อีกอย่างที่มีคือ เครือข่ายรอบด้าน ถ้ามองในอนาคตก็เป็นประโยชน์กับ DUSIT มากทีเดียว…

ส่วนในมุม AWC หากได้ DUSIT มาอยู่ในพอร์ตจริง ก็คงทำให้พอร์ตใหญ่บึบขึ้นในพริบตา..!?

ก็น่าคิดว่า การไปซื้อโรงแรมจาก DUSIT ครั้งนี้ จะเป็นการขี่ม้าเลียบค่ายของ AWC อ๊ะป่าว..!? เป็นการวางเกมธุรกิจของ “เสี่ยเจริญ” โดยมีเป้าใหญ่อยู่ที่การเข้าไปถือหุ้น DUSIT ในภายภาคหน้า…ส่วนจะถึงขั้นรวบหัวรวบหางเลยมั้ย..? อันนี้เดาใจยาก

แต่อย่าลืมนะว่า “เสี่ยเจริญ” มีฉายาเป็น “เจ้าพ่อเทกโอเวอร์” นักช้อปกิจการรายใหญ่ของเมืองไทยนะ…ดังนั้นอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้…ใครจะไปรู้

…อิ อิ อิ…

Back to top button