เรื่องวุ่น ๆ หุ้นร้อน

ประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดในวันนี้ คงไม่พ้นเรื่องหุ้นร้อนที่ตกเป็นขี้ปากของชาวหุ้น และส่วนใหญ่ก็เม้าท์ไปในทางเสียหายเป็นหลัก


ประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดในวันนี้ คงไม่พ้นเรื่องหุ้นร้อนที่ตกเป็นขี้ปากของชาวหุ้น และส่วนใหญ่ก็เม้าท์ไปในทางเสียหายเป็นหลัก เดี๊ยนจึงต้องกระโจนลงไปคลุกคลีตีโมงกับเขาด้วยคน เพราะเรื่องที่เป็นประเด็นมันเกี่ยวโยงกับราคาหุ้นในกระดาน และยังทำให้นักเล่นเกิดอาการตื่นตระหนกอย่างแรง จึงต้องลงไปสืบเสาะข้อมูลที่แท้จริง เพื่อประเมินอาการในตอนนี้โอเว่อร์แอคติ้งเกินไปไหมจ๊ะ

โดยเฉพาะอาการที่ดัชนีแสดงออกมาในลักษณะ “ง่อยเปลี้ย เพลียแรง” ก่อนจะไหลลงมาปิดที่ระดับ 1,652.76 จุด ลบไป 12.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.05 หมื่นล้านบาท มันสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มีต่อความสามารถในการทำกำไร จึงหันมาใช้วิธีขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และทำให้ภาพของการลงทุนเที่ยวนี้ออกไปในทาง “ไซด์เวย์ดาวน์” แบบเต็มตัวไงล่ะตัวเอง

งานนี้จึงขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแบบไหน?..หากมองเป็นโอกาส ก็ควรซื้อสวน หากมองเป็นความเสี่ยง ก็อยู่เฉย ๆ เป็นการชั่วคราว เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้ใจเหมือนที่เกริ่นไว้ต้นสัปดาห์ “โมนิก้า” ถึงมองการลงทุนเที่ยวนี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน หลังบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นอลเวงมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดนะจะบอกให้

เหมือนกับเคสของหุ้น GUNKUL ที่ศาลมีคำพิพากษา “เพิกถอนที่ดินสองพันไร่” มันเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนวงการพลังงานลมสุด ๆ เพราะมันหมายถึงรายได้ต่อปีจะวูบหายไปพันล้าน และทำให้พวกแฟนคลับกระหน่ำขายหุ้นออกมาอย่างหนัก จนวานนี้ไหลลงมาปิดที่ระดับ 4.24 บาท ลบไป 0.52 บาท หรือลงไป 10.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.28 พันล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จสองวันร่วงไปถึง 13% เจ้าค่ะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้หัวเรือใหญ่รีบออกมาดับไฟ และเตรียมอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด เพื่อชี้ให้เห็นว่า โครงการที่ห้วยบ้งดำเนินการอย่างถูกต้อง และจำนวนไฟที่กระทบกับบริษัทมีแค่ 20 เมกฯ จากที่มีทั้งหมด 60 เมกฯ จึงทำให้นักวิเคราะห์มองการย่อตัวลงมาเที่ยวนี้เว่อร์เกิน! และเป็นเรื่องราวที่กระทบชิ่งไปยังหุ้น GULF อีกด้วยแบบนี้ น้องโมคงบอกได้แค่ว่า ลุ้นระทึกพะย่ะค่ะ

ส่วนรายที่เคลียร์กำไรลดแบบเบ็ดเสร็จ และในอยู่ช่วงแจกแจงให้ชาวหุ้นรู้หมดทุกมุม “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JMART เป็นรายถัดมา หลังปี 65 ไม่ได้บุ๊กกำไรพิเศษจากการขายหุ้น แต่เมื่อดูไส้ในจะเห็นว่า กำไรปกติเมื่อเทียบปีต่อปีก็ยังโต เชื่อว่าขาลุยจะหาจังหวะเข้ามาเก็บหุ้นรอบใหม่ หลังจากราคาลงลึกจนค่า P/E ต่ำเพียง 16.65 เท่า วานนี้ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 31.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาทไงล่ะคะ

สำหรับรายที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะธุรกิจแห่งอนาคตไม่ปัง จนต้องซมซานกลับมาทำกองทุนเป็นหลัก “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น XPG แบบไม่ลังเลใจอีกเช่นกัน เพราะประเด็นดังกล่าวเป็นที่เรื่องลือมากในหมู่ขาเม้าท์ แถมราคาหุ้นก็ตอบรับในเชิงลบอีกเช่นกัน เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1.32 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลงไป 6.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาท มันสะท้อนเรื่องที่เขาเม้าท์จริงไหมจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องกลับมามองที่หุ้นหมดรอบแบบเป็นทางการอย่าง KWI หลังมีแรงขายไหลออกมาเรื่อย ๆ จนโมเมนตัมของหุ้นอยู่ในทิศทางขาลงอีกรอบแบบนี้ มันเป็นจังหวะที่ต้องตัดใจตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย และการยืนปิดที่ระดับ 2.58 บาท ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 6.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ฟ้องให้เห็นทนโท่ว่า ไม่เด้ง..จบเห่นะจะบอกให้

ส่วนรายที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น BKD ภายใต้การบริหารจัดการของ “พี่หลาม” เพราะเมื่อดูศักยภาพในการเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่ นี่ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจสุด ๆ สำหรับธุรกิจที่กำลังขยายสาขา หรือกำลังรีโนเวทโครงการต่าง ๆ เดี๊ยนเลยเชื่อว่า การเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.74 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 10.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 270 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม..เชื่อหัวน้องโมสิ

Back to top button