กลัวดันแล้วทุบ

กลายเป็นเรื่องน่าขันสุด ๆ เมื่อตลาดหุ้นไทยมักบวกสวนในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง แต่ในขณะเดียวกันก็ดันลงสวนในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น


กลายเป็นเรื่องน่าขันสุด ๆ เมื่อตลาดหุ้นไทยมักบวกสวนในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง แต่ในขณะเดียวกันก็ดันลงสวนในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น โดยฝรั่งหัวทองยังเป็นคนกำหนดเกมหุ้นในแต่ละวันเหมือนเดิมแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นการหยั่งเชิงเพื่อล่อให้คนเข้ามารับของในราคาสูง และเป็นเกมหุ้นที่เห็นบ่อยมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า เกมหุ้นในลักษณะ “หมาหยอกไก่” จะดำเนินต่อไปอีกนานเจ้าค่ะ

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดจากความไม่ชัดเจนในหลายเรื่อง และหลายเรื่องส่อไปในทางที่แย่ลงกว่าเดิม แต่กระนั้นก็ดูเหมือนจะมีสัญญาณบางอย่างบอกให้รู้ว่า แนวรับบริเวณ 1,500 จุดน่าจะเอาอยู่ เพราะมีแรงซื้อเข้ามาช้อนหุ้นเมื่อย่อตัวลงมาบริเวณนี้เยอะมาก จึงกลายเป็นช็อตที่เอื้อต่อการ “ดัน ๆ ทุบ ๆ” ของคนที่เล่นสั้นแบบสนุกมือ หลังนักลงทุนไม่กล้าถือหุ้นยาวเหมือนเมื่อก่อนพะย่ะค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะยืนมาปิดที่ระดับ 1,559.50 จุด บวกไป 26.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.96 หมื่นล้นบาท กลายเป็นเรื่องที่ทำให้อีฉันหัวจะปวด เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งแสดงอาการง่อยเปลี้ยให้เห็นคาตา แต่วานนี้กลับโชว์ความฟิตให้เห็นแบบไม่ทันตั้งตัว “โมนิก้า” เลยมองเป็นเรื่องที่ “น่ายินดี ทั้งน้ำตา” เพราะวันนี้อาจมีบางคนที่ออกของไม่ทัน..แต่คงเป็นเรื่องที่นักเล่นชินกันแล้วกระมัง!..อิอิอิ

คล้ายกับสถานการณ์โอละพ่อที่เกิดขึ้นกับหุ้น AH มันกลายเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า เมื่อนักเล่นเกิดอาการแตกตื่น ก็พร้อมที่จะขายหุ้นแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ส่งผลให้ราคาหุ้นทรุดลงไปทำโลว์ที่ระดับ 27.75 บาทตั้งแต่หัววัน ก่อนจะมาเฉลยในภายหลังว่า อีซูซุไม่ย้ายฐานผลิตไปอินโด ราคาหุ้นเลยตีตื้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ระดับ 36.50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.99 พันล้านบาทไงล่ะคะ

เมื่อสถานการณ์พลิกกลับรอบใหม่ หุ้นใหญ่ที่เคยถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ ก็เด้งกลับอย่างพร้อมเพรียง และหนึ่งในตัวเอกของวานนี้ก็คือ PTT ซึ่งไต่เพดานขึ้นมาปิดที่ 31.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.72 พันล้านบาท พร้อมกับมีคำถามตามหลังมาว่า เที่ยวนี้จะฝ่าด่านหินบริเวณ 33 บาทได้ไหม? เพราะเที่ยวก่อนก็จอดป้ายตรงบริเวณนี้..ยังจำกันได้ไหมเอ่ย?

อีกรายที่น่าสนใจต้องมองไปที่หุ้น CPF หลังพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 21.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 917 ล้านบาท พร้อมกับสลัดอาการเด้งเป็นปลิดทิ้งแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมยาวที่นักเล่นต้องตามดูให้ดี เพราะเป็นการขึ้นด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น พร้อมกับตั้งความหวังกันว่า ผลงานต่อจากนี้จะดีขึ้นเป็นลำดับ จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้หุ้นไปต่อสวย ๆ นะจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ PTTGC ซึ่งจมปลักกับความขื่นขมเป็นเวลานาน ในที่สุดก็พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 38.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 พันล้านบาท แถมเป็นการขึ้นต่อเนื่องวันที่สอง มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้นักเล่นเกิดอาการฮึกเหิม เพราะแวลูจริง ๆ ของหุ้นอยู่สูงกว่านี้เยอะ จึงเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกบานตะไท ส่วนจะเป็นจริงเหมือนที่โบรกฯ หลายสำนักประเมินไหม?..ดูกันเอาเองนะออเจ้า

ส่วนรายที่ผลิกโผแบบเหนือเมฆ เพราะหุ้นอยู่ในช่วงดำดิ่งลูกเดียว “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้นกระดาษลัง SCGP อีกครั้ง (วันก่อนเพิ่งเม้าท์ไปหยก ๆ) หลังวานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 39.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 788 ล้านบาท มันกลายเป็นคนละเรื่องกับที่เม้าท์ไปเมื่อวันก่อน จึงภาวนาให้หุ้นขึ้นยาว ๆ พร้อมกับทำผลงานออกมาแจ่ม ๆ เพื่อทำให้การขึ้นเที่ยวนี้ไม่เป็นสงครามวันเดียวเจ้าค่ะ

ขนาดยักษ์ใหญ่รับเหมาอย่างหุ้น CK ยังทะยานแรงกับเขาด้วยคนแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นโมเมนตัมที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 19.70 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาท มันเป็นจังหวะฟิน ๆ ที่ทำให้นักเล่นเคลิ้มสุด ๆ และมีความหวังที่จะได้เห็นหุ้นขึ้นไปยืนที่ฐานเก่าบริเวณ 21 บาทอีกครั้ง มันน่าตามไปดูไหมล่ะคะ

Back to top button