Naked Short แพะ..หุ้นร่วง.!?

ยังคงมีความไม่เข้าใจในเรื่องของธุรกรรมการลงทุนในตลาดหุ้น ที่ทำแล้วผิดกฎหมายอย่าง Naked Short Selling ที่นักลงทุนรายย่อยหรือรายใหญ่ไม่เข้าใจ


ยังคงมีความไม่เข้าใจในเรื่องของธุรกรรมการลงทุนในตลาดหุ้น ที่ทำแล้วผิดกฎหมายอย่าง Naked Short Selling ที่นักลงทุนรายย่อยหรือรายใหญ่ยังไม่เข้าใจ ว่าแท้จริงแล้วมันคือธุรกรรมที่ต่อเนื่องจากการ Short Sell คือ..

“การขายหุ้นออกไปก่อน โดยที่นักลงทุนรายนั้นไม่ได้มีหุ้นอยู่จริง และรีบซื้อหุ้นตัวนั้นกลับคืนมาภายในวันเดียวกัน ในราคาที่ต่ำกว่าตอนขายออกไป โดยหวังส่วนต่างกำไรจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น”

ถ้าสรุปง่าย ๆ Naked Short Selling คือการ Short Sell หุ้นแบบ Net Settlement นั่นเอง..

โดยธุรกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดกฎพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เหมือนการกระทำความผิดโดยการปั่นหุ้น หรือสร้างราคาหุ้น ซึ่งจะมีบทลงโทษหนักเบาตามหลักฐานที่ตรวจพบ

ฉะนั้น การจะกระทำ Naked Short Selling ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จะต้องมีโบรกเกอร์ในฐานะคนกลางที่รับหน้าที่ส่งออเดอร์ หรือคำสั่งขายออกไปก่อน โดยหุ้นที่จะทำการ Short Sell ได้ ต้องอยู่ในกลุ่ม SET50 หรือ SET100 ถ้าเกินจากนี้ ดุลพินิจที่มีออกมาจะต้องเป็นความรับผิดชอบของโบรกเกอร์นั้น ๆ ที่ส่งคำสั่งขายออกไปก่อนนั่นเอง

ขอบเขตของธุรกรรมที่ผิดกฎหมายของ Naked Short selling มีอยู่ประมาณนี้

ส่วนในกรณีที่มีการร้องเรียนว่าหุ้นของลูกค้าที่เอาไปฝากไว้กับคัสโตเดียน แต่กลับหายไป และเข้าใจว่าถูกนำไป short sell ในตลาดนั้น แบบนี้ไม่ถือเป็น Naked Short Selling

เนื่องจากลูกค้ามีหุ้นในครอบครองก่อนขายในจำนวนที่มากกว่าจำนวนที่ขาย และไม่ใช่การ short sell แบบซื้อหุ้นคืนในวันเดียวกัน จึงไม่ใช่ Naked Short Selling แต่อย่างใด

ในกรณีที่หุ้นฝากคัสโตเดียนแล้วหายไปนั้น ทางลูกค้าต้องไปไล่บีบเอากับคัสโตเดียน ที่ลูกค้าอ้างว่าหุ้นหายไปเอง เพราะเป็นการเซ็นสัญญาที่ลูกค้าเลือกใช้บริการคัสโตเดียนนั้นเอง

อย่างไรก็ตาม มีความ error ที่สามารถเป็นไปได้ 2 กรณี คือ 1.ลูกค้ารายนั้นไปเซ็นสัญญาก่อนเปิดพอร์ตฝากหุ้นไว้กับทางคัสโตเดียน แบบให้ยืมและขอยืมหุ้นเพื่อไปขายชอร์ตแล้วส่งมอบหุ้นนั้นคืน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการยืม หรือรู้จักกันในนามของ Stock Borrowing and Lending (SBL)

เนื่องจากสัญญาที่จะเอามาให้เซ็นก่อนเปิดพอร์ตฝากหุ้นกับทางคัสโตเดียนนั้นหนาเป็นปึก และข้อสำคัญเป็นภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากฎหมายล้วน ๆ การจะนั่งอ่านทุกหน้าคงเป็นเรื่องยากที่ใครจะทำกัน

ทำให้มีโอกาสพลาดที่จะไม่ได้อ่านข้อความเกี่ยวกับธุรกรรม SBL

วิธีแก้ปัญหาข้อนี้ง่ายมาก คือบริษัทสามารถเรียกประชุมหรือขึ้นเครื่องหมาย XM จะทำให้หุ้นทุกตัวที่ถูกยืมขาย Short ออกไป จะถูกดึงกลับมาหมดตามสิทธิของเจ้าของ

การปิดสมุดทะเบียนเพื่อดูรายชื่อผู้ถือหุ้นก็จะไม่เห็นอะไร เพราะยังถือในนามคัสโตเดียนอยู่ดี

2.ลูกค้ารายนั้นอาจจะขายหุ้นตนเองจนเพลิน จนไม่รู้ว่าตนเองเหลือหุ้นเท่าไหร่ พอมาดูก็ยังคิดว่ายังมีหุ้นอยู่เท่าเดิม แต่ลืมไปว่าก่อนหน้านี้ได้มีการเทขายออกไปบ้างแล้ว ก่อนที่หุ้นจะร่วงหนักแล้วมาโยนบาป และโหนกระแส Naked Short Selling ให้คนที่ไม่รู้ ผสมโรงก่นด่าทางการต่อเนื่องไปอีก

การปรับตัวลดลงของดัชนีที่ทำให้นักลงทุนที่ขาดทุนจากการเทขายหุ้นของ “ต่างชาติ” ในช่วงตลอดทั้งปีนี้ ย่อมต้องมีอารมณ์และความรู้สึกว่าจะต้องมีคนผิด หรือต้องมีคนรับผิดชอบกับการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยจาก 1,700 สู่ 1,300 จุด รวมถึงผลการขาดทุนในครั้งนี้

โดยที่ไม่ได้มองว่าผลประกอบการของกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนที่ตั้งเป้าเมื่อต้นปี 2566 อยู่ที่ EPS 100 บาท มาเหลือ EPS 84 บาท ที่ควรจะเป็นเหตุผลที่ดีกว่าไปเที่ยวโยนบาปให้ Naked Short Selling ซึ่งเหมือนผีที่ทุกคนเชื่อว่ามี และกลัว แต่ไม่เคยมีหลักฐานเอามายืนยันได้เลย ผีหน้าตามันเป็นอย่างไร ยิ่งมาบอกว่าหุ้นที่ฝากไว้ที่คัสโตเดียนหายไปจำนวนหนึ่ง แล้วมาร้องโวยวายว่าถูก Naked Short ทำร้ายแบบนี้ ไม่ใจแคบไปหน่อยเหรอ..

เดี๋ยวนี้นักลงทุนรายย่อยมีความรู้กันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน การจะอ้างอิงอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล คนอื่นเห็นเข้าเขาจะหัวเราะเอาได้ ว่าไม่ได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้ว Naked Short คืออะไรกันแน่..?

“รู้แต่ว่า ถ้าหุ้นลงต้องโทษ Naked Short อย่างเดียว แบบนี้ไม่ดีนะ”

…อิ อิ อิ…

Back to top button