ลากมาตบ?

เดี๊ยนขอบอกตามตรงว่า ยิ่งดัชนีแกว่งตัวแรงมากขึ้นเท่าไหร่? ยิ่งผลักไสไล่ส่งแมงเม่าให้ออกจากตลาดหุ้นมากขึ้นเท่านั้น!


เดี๊ยนขอบอกตามตรงว่า ยิ่งดัชนีแกว่งตัวแรงมากขึ้นเท่าไหร่? ยิ่งผลักไสไล่ส่งแมงเม่าให้ออกจากตลาดหุ้นมากขึ้นเท่านั้น! “โมนิก้า” เลยไม่แฮปปี้ที่เห็นดัชนีแกว่งตัวแรงแบบไร้เหตุผล ซึ่งแมงเม่าส่วนใหญ่ก็มองเหมือนกับที่อีฉันมองนี่แหละ! แถมทุกคนอยากเห็นดัชนีลงไปให้สุด เพื่อจะได้เซตเกมใหม่แบบนี้..เดี๊ยนคงต้องเลิกหวังว่า ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,250 จุดแล้วกระมัง..อิอิอิ

เนื่องจากพฤติกรรมของตลาดหุ้นไทยในช่วงหลังออกไปในทางลากมาตบบ่อยเหลือเกิน ซึ่งเห็นได้จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ดัชนีขึ้นไต่ระดับจาก 1,187 จุด จนขึ้นไปถึงระดับ 1,231 จุด แต่สุดท้ายทรุดตัวลงมากองอยู่ใต้ที่ระดับ 1,200 จุด จนวันศุกร์ที่แล้วทำท่าจะไม่รอดสันดอน แต่พลิกตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,195.77 จุด บวกไป 1.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.67 หมื่นล้านบาทได้ซะงั้น!

สถานการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการสับสนอย่างรุนแรง เพราะมองในมุมของพื้นฐานเป็นหลัก ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า ไม่มีข่าวดีเข้ามาซัพพอร์ตเลยจริง ๆ ขณะเดียวก็จะเห็นว่า นี่เป็นเดือนของการขายเมื่อความจริงปรากฏ และถัดจากนี้จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องเดิมพันด้วยงบไตรมาส 2 จะออกมาดีไหม? ซึ่งจะตีคู่ไปกับเรื่องเทรดวอร์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นขนาดไหน?..มันเป็นแรงกดทับตลาดหุ้นไทยนะจะบอกให้

ขนาดหุ้นตัวท็อปของตลาดหุ้นไทยอย่าง ADVANC กลับมีแรงขายออกมาร่วมสัปดาห์ ส่งผลให้ราคาหุ้นไหลลงจากระดับ 310 บาทอย่างช้า ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 289 บาท ลบไป 7 บาท หรือลงไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.49 พันล้านบาท “โมนิก้า” รู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล เพราะเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหุ้นลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 260 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจ้า!

ที่น่าแปลกใจก็คือ KTB ซึ่งเป็นหุ้นแบงก์พิมพ์นิยม และมีแรงซื้อเข้ามาเป็นประจำ กลับถูกรินขายออกมาอีกครั้ง “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 21.80 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาท เป็นจังหวะของการทยอยสะสมไหม? แถมนักเล่นก็รู้อยู่เต็มอกกันทุกคนว่า วันนี้หุ้นเทรดบน PE 7 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ถูกสุด ๆ แต่ไม่มีใครซื้อแบบนี้..หมายความว่าอย่างไรจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น OKJ เป็นรายถัดมา เพราะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ทำผลงานได้เสมอต้นเสมอปลาย แต่นักลงทุนก็ไม่อินผลงานที่ทำได้สักเท่าไหร่? จึงพากันเทขายหุ้นออกมาเป็นระยะ แต่ถ้ามองในมุมกลับกันจะเห็นว่า หุ้นตัวนี้เทรดบน PE 26 เท่าเชียวนา! อีฉันเลยเข้าใจเหตุผลที่หุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 7.20 บาท ลบไป 1.60 บาท หรือลงไป 18.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 210 ล้านบาทนะออเจ้า!

ส่วนรายที่อีฉันไม่เข้าใจจริง ๆ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นเสริมความงาม KLINIQ เพื่อแชร์ข้อมูลให้ทุกคนเห็นงบไตรมาส 1 ยังโต และหุ้นก็เทรดบน PE 16 เท่า แต่ดันมีแรงขายไหลออกมาไม่หยุดหย่อน จนสุดท้ายหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 21.70 บาท ลบไป 2.80 บาท หรือลงไป 11.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาทแบบนี้..สงสัยนักเล่นกลัวไตรมาส 2 กำไรจะไม่มาตามนัดกระมัง! ถึงถอยกรูดกันเป็นแถว..อีฉันเห็นแล้วก็เหนื่อยใจแทนจริง ๆ เจ้าค่ะ

เมาท์ถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาทั้งที อีฉันขอเม้าท์ถึงหุ้น DV8 ที่ออกมาชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบว่า ไม่มีเรื่องเทกโอเวอร์! และไม่มีพัฒนาการสำคัญเกิดขึ้นกับบริษัท แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.20 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51 ล้านบาท มันเป็นเรื่องแปลกไหม! แถมงบไตรมาส 1 มีตัวเลขขาดทุน 20 ล้านค้ำคออีกด้วยแบบนี้..เขาเล่นอะไรกันเนี่ย!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button