เท่านี้ก็ตรม…ไม่เอาสงครามขยะ

สุดตรม! ประเทศไทย เศรษฐกิจไม่ฟื้น เพราะสารพัดปัจจัยรุมเร้าทั้งเหตุสงครามนอกประเทศ และเสถียรภาพการเมืองในประเทศที่ง่อนแง่นมาก จากเหตุ “คลิปลับฮุน เซน”


สุดตรม! ประเทศไทย เศรษฐกิจไม่ฟื้น เพราะสารพัดปัจจัยรุมเร้าทั้งเหตุสงครามนอกประเทศ และเสถียรภาพการเมืองในประเทศที่ง่อนแง่นมาก จากเหตุ “คลิปลับฮุน เซน”

ทหารไทย-กัมพูชา เผชิญหน้าพร้อมอาวุธครบมือตามชายแดนทุกจุด หวาดเสียวเหลือเกิน หากมีใครไม่ประสงค์ดี จุดประทัดสักดอก หรือโยนระเบิดใส่เนินปลวกเนินดิน ก็อาจก่อเหตุแตกตื่น สาดกระสุนใส่กัน กลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ก่อชนวนสงครามลามปามขึ้นมาได้

เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้น ดันจะมีสงครามเพื่อนบ้านซะอีก อนาคตประเทศไทยไม่สดใสแน่ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจชายแดน ตลอดจนชีวิตระหกระเหินจากภัยสงครามของราษฎรทั้งสองฝั่ง

เศรษฐกิจชายแดนไทย-เขมร ก็ไม่ใช่น้อย ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศปี 2567 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการค้ารวม 174,531 ล้านบาท ไทยส่งออก 141,847 ล้านบาท และนำเข้าจากเขมร 32,684 ล้านบาท ไทยได้เปรียบดุลการค้า 109,163 ล้านบาท

มันน้อยซะเมื่อไหร่ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกของชาวบ้านทั้งสองฝั่งก็ดำเนินไปอย่างคึกคัก

สำหรับ 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย) มีมูลค่าการค้ารวม 67,071 ล้านบาท ส่งออก 50,541 ล้านบาท นำเข้า 16,530 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 34,010 ล้านบาท

การจะบอกว่า ปิดด่านก็ดีแล้ว ฝ่ายเขมรจะลำบากเอง และตัวเลขที่ไทยได้เปรียบดุลการค้า ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่น่ายินดีอะไร เพราะจะได้กดดันพวกแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยดินแดนเขมรมาหลอกลวงคนไทยด้วย

น่าจะเป็นคำพูดที่เหวี่ยงแหเกินไป การแก้ปัญหาแก๊งอาชญากรรมฯ ก็เป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีวิธีจัดการเฉพาะปัญหาของมันเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับการค้าขายโดยสุจริตของประชาชน 2 ดินแดนนี้

ยิ่งเป็นระดับผู้นำประเทศ ยิ่งไม่ควรมีคำพูดเช่นนี้ออกมาจากปากอย่างเด็ดขาด ผู้นำเขมรทั้งพ่อทั้งลูก จะบ้าคลั่ง หาเรื่องสาดเสียเทเสียมาใส่ร้ายประเทศไทยอย่างไร ผู้นำรัฐบาลฝ่ายไทย ก็ต้องตั้งตัวเองให้ตรงว่า ยึดมั่นในสันติภาพ หลีกเลี่ยงสงคราม และต้องการให้ชายแดนสงบ

อย่าได้แฝงเจตนารมณ์ เอาการเมืองภายในมาแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดน เฉกเช่นผู้นำกัมพูชาอย่างเด็ดขาด

ขณะนี้ กระแสชาตินิยมกำลังแรง และผู้นำไทยไปพลาดท่าเสียทีให้ผู้นำเขมรจากกรณีคลิปลับ ก็ไม่ควรจะออกตัวแรงในเรื่องของการปิดด่าน จำกัดเวลาปิด-เปิด หรือการตอบโต้ผู้นำเขมรอย่างเผ็ดร้อน เช่นไปว่าเขาเป็นหัวโจกอาชญากรรมข้ามชาติอย่างนี้เป็นต้น

ประชาคมโลกจะมองได้ว่า “ขิงก็รา ข่าก็แรง” สู้ยืนตรง ๆ ว่า ไทยไม่ประสงค์จะเป็นฝ่ายปิดด่านตัดไฟ ตัดน้ำมันก่อน เขมรจะฟาดงวงฟาดงาอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา ย่อมดีกว่าแน่นอน แต่ถ้ามีการบุกรุกดินแดนไทยเมื่อไหร่ ก็ต้องฟาดกันให้หนัก

เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น หากมีสงครามขยะไทย-เขมร ก็นับเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไป สำหรับประเทศไทย

Back to top button