‘ไทย-มาเลเซีย’ระทึก..สหรัฐส่งออกชิป AI

สั่นสะเทือนวงการปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence :AI) อีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” มีแผนจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence Chips หรือชิป AI เป็นชิปประมวลผลสำหรับงาน AI จากบริษัทต่าง ๆ เช่น เอ็นวิเดีย (Nvidia) ไปประเทศมาเลเซียและประเทศไทย ด้วยเหตุเพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบนำเข้าจีน

โดยร่างกฎหมายจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะจับคู่ระหว่างการควบคุมครั้งใหม่ กับมติอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อจำกัดภายใต้กฎการแพร่กระจายชิป AI ระดับโลก พุ่งเป้าไปที่ประเทศจีนและอีกกว่า 40 ประเทศ

มีรายงานว่าร่างกฎหมาย มุ่งหวังจะป้องกันไม่ให้จีน (สหรัฐฯ ห้ามการขายชิปประมวลผล AI ขั้นสูงของเอ็นวิเดียแก่จีน) ไม่ให้ได้รับส่วนประกอบชิปเหล่านี้ ผ่านตัวกลางในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดีกฎหมายดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

หากว่ามีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย จะถือเป็นก้าวแรกอย่างเป็นทางการกับการปฏิรูป หรือว่ายกเครื่องแนวทางการแพร่กระจาย AI สมัยอดีตประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามที่สัญญาไว้ อย่างไรก็ดีไม่ได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับเงื่อนไขด้านความปลอดภัย สำหรับการใช้ชิปของสหรัฐฯ ในศูนย์ข้อมูลต่างประเทศ

โดยเฉพาะกรณีภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ เช่น ศูนย์ข้อมูลในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี

“กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ” ไม่ได้แสดงความคิดเห็นกรณีนี้  แต่ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ด้านกฎระเบียบชิป AI จากสิ่งที่  “โฮเวิร์ด ลุตนิก”  รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ตอบต่อข้อซักถามในรัฐสภา ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า…

“สหรัฐฯ จะอนุญาตให้พันธมิตรซื้อชิป AI ได้ แต่ต้องดำเนินการโดยผู้ดำเนินการศูนย์ข้อมูลที่ได้รับอนุมัติจากสหรัฐฯ และรวมถึงคลาวด์ ที่เกี่ยวข้องต้องเป็นผู้ดำเนินการที่ได้รับอนุญาตจากสหรัฐฯ เช่นกัน”

ขณะที่ “เอ็นวิเดีย” ผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของโลก ปฏิเสธจะแสดงความคิดเห็นต่อแผนของกระทรวงพาณิชย์ดังกล่าว แต่ที่ผ่านมา “เจนเซ่น หวง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอ็นวิเดีย ระบุว่า “ไม่มีหลักฐานของการใช้ทางเบี่ยงลักลอบนำชิป AI ไปใช้ และไม่ได้มีการกล่าวถึงประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะแต่อย่างใด”

ปัจจุบัน Nvidia ครองตลาดชิป GPU สำหรับ AI ขณะที่ Google เป็นผู้นำด้านชิป ASIC ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะปี 2026 Google จะยังคงเป็นเจ้าตลาดนี้ และ Apple กำลังทดลองใช้ชิป TPU ของ Google เพื่อพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง ที่มีการเปิดตัวบน iPhone และ Mac ภายในปี 2025

จากการเติบโตของ AI ทำให้เกิดความต้องการสูงในกลุ่มศูนย์ข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์รายใหญ่ในตลาด ได้แก่ AWS, Google, Microsoft, Huawei และ Alibaba โดย Mckinsey ประเมินว่ามูลค่าตลาด Data Center โลก จะเติบโตจาก 2.4 แสนล้านดอลลาร์ช่วงปี 2024 ขึ้นเป็น 5.8 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2032 หรือเฉลี่ยเติบโตปีละ 11.6%