เกาหลี Cut Run ดันมาร์จิ้นปิโตรเคมี.!

ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เกิด “ภาวะอุปทานส่วนเกินผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี” ทำให้อัตรากำไรบริษัทจดทะเบียนกลุ่มดังกล่าวลดลงอย่างมาก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว


ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เกิด “ภาวะอุปทานส่วนเกินผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี” ทำให้อัตรากำไรบริษัทจดทะเบียนกลุ่มดังกล่าวลดลงอย่างมาก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

ล่าสุด 10 บริษัทผู้ประกอบการปิโตรเคมีเกาหลีใต้ บรรลุข้อตกลงการปรับโครงสร้างธุรกิจ หมายรวมถึงการลดกำลังการผลิต (Cut Run) ผลิตภัณฑ์แนฟทา-แครกกิ้ง (naphtha-cracking) ลงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยจะมีการลดกำลังการผลิต “แนฟทา-แครกกิ้ง” ลงระหว่าง 2.7-3.7 ล้านตันต่อปี หรือเท่ากับการลดกำลังผลิตลงมากถึง 25% จากกำลังผลิตรวมทั้งประเทศ ที่มีอยู่ 14.7 ล้านตัน โดย 10 ผู้ประกอบการดังกล่าว ต้องยื่นรายละเอียดแผนการลดกำลังการผลิตภายในสิ้นปีนี้

“หัวใจสำคัญกับการก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ คือการลดกำลังการผลิตและการฟื้นฟูความสามารถการแข่งขันขั้นพื้นฐาน”

โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ ชี้ชัดว่า ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต จึงจำเป็นต้องเร่งกระบวนการปรับโครงสร้างเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและแก้ปัญหาอัตรากำไรที่ตกต่ำ..!!

ช่วงครึ่งแรกปี 2568 การส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเกาหลีใต้ มีมูลค่า 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 11.1% จากปีก่อนหน้า ท่ามกลางราคาที่ลดลงและอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) ทั่วโลก

บริษัทปิโตรเคมีชั้นนำของเกาหลีใต้ ได้แก่ LG Chem ผู้ผลิตเอทิลีนและโพรพิลีนรายใหญ่ที่สุด รวมถึง GS Caltex, Lotte Chemical, Hanwha TotalEnergies, S-Oil และ HD Hyundai Chemical มีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับฐานะการเงินของบริษัท Yeochun NCC ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทปิโตรเคมีที่ขาดทุน และมีรายงานว่ากำลังเผชิญกับเงินกู้ 1.8 แสนล้านวอน (130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่จะครบกำหนดชำระช่วงเดือนสิงหาคมนี้

ขณะที่ YNCC บริษัทร่วมทุนระหว่าง DL Chemical และHanwha Solutions ไม่ให้ความเห็นใด ๆ แต่ DL Chemical ระบุว่า บริษัทมีเป้าหมายจะปรับปรุงแผนธุรกิจและจัดหาสัญญาวัตถุดิบ เพื่อให้มั่นใจถึงความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน ส่วน Hanwha Group บริษัทแม่ของ Hanwha Solutions ระบุว่า จะให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับแนวทางรัฐบาลในการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างรวดเร็ว

การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเกาหลีใต้ครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นปีพ.ศ. 2542 ช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินเอเชีย เป็นช่วงที่มีการก่อตั้ง YNCC

กระทรวงอุตสาหกรรม เกาหลีใต้ ระบุว่า รัฐบาลมีการกำหนดเป้าหมายไว้ 3 ประการ สำหรับการปรับโครงสร้าง ได้แก่ 1)การลดกำลังการผลิตส่วนเกินและสิ่งอำนวยความสะดวก 2)การปรับปรุงสถานะทางการเงินบริษัทต่าง ๆ 3)การลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานในท้องถิ่น โดยรัฐบาลจะปรับโครงสร้างนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งในประเทศ พร้อมกันและเสนอแพ็กเกจสนับสนุนสำหรับอุตสาหกรรม

ทั้งนี้อัตรากำไรบริษัทปิโตรเคมีเกาหลีใต้และทั่วโลก ลดลงอย่างมาก เนื่องจากอุปทานส่วนเกินของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีน ที่ถือเป็นตลาดปิโตรเคมีที่ใหญ่สุดในโลก ความต้องการซบเซาตอลดช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน

“อัตรากำไรขั้นต้นของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลก จะไม่ฟื้นตัวก่อนภายในปี 2570”

ปรากฏการณ์ Cut Run ที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้หุ้นปิโตรเคมีของไทย อย่างบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC และบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน )หรือ IVL มีโอกาสลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้บ้าง จากส่วนต่างราคา (Spread) ที่ปรับเพิ่มขึ้น และการขยายตัวของยอดขายอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน..!??

เล็กเซียวหงส์ (แทน)

อนุสนธิจากบทความ “ขี่พายุ ทะลุฟ้า” ฉบับวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568 ข้อความเกิดความคลาดเคลื่อนโดยไม่เจตนา จาก “พ่อฟ้องลูก-ลูกฟ้องพ่อ” เป็น“พ่อฟ้องลูก” ไม่มี “ลูกฟ้องพ่อ” ตามที่กฎหมายห้ามไว้ จึงขออภัยมา ณ ที่นี้

Back to top button