THANA ลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 15% จากเดิม 20% หลังภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

THANA ลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 15% จากเดิม 20% หลังภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว-เตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ใน H2/59 มูลค่ารวม 1.2 พันลบ.


นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือเติบโต 15% จากเดิมที่คาดจะเติบโต 20% จากปีก่อน หลังผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ประกอบกับลูกค้ามียอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากระดับ 7% ในปีก่อน เนื่องจากธนาคารปล่อยสินเชื่อด้วยความเข้มงวดมากขึ้น แต่ยังเชื่อว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ 146 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ และยังมีสต๊อกสินค้าพร้อมขายอีกราว 600-800 ล้านบาท

สำหรับเป้าหมายยอดขายในปีนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.1 พันล้านบาท ซึ่งช่วงสิ้นไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมียอดขายแล้ว 340 ล้านบาท ขณะที่ยังมีสัญญาณการขายที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่ในจังหวัดนนทบุรี ที่เป็นพื้นที่หลักในการพัฒนาโครงการยังมีแนวโน้มที่ดี หลังจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการ และมีการเปิดทางด่วนเส้นใหม่เพิ่มเติมด้วย

โดยในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทเตรียมที่จะเปิดอีก 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 1.2 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการธนาครัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล-บางใหญ่ และโครงการธนาฮาบิแทต 2 ราชพฤกษ์-สิรินธร โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริษัทยังค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 31-32% หลังช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำได้ที่ระดับ 33.3%

นายสุทธิรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินอีก 4 แปลง แบ่งเป็น 3 แปลง ในจังหวัดนนทบุรี และ 1 แปลง ในจังหวัดภูเก็ต และบริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ราว 800 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ โดยมองหาที่ดินในเขตปริมณฑล เช่น นนทบุรี พระราม 2  เทพารักษ์ สมุทรปราการ และ ภาคตะวันออก

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปีนี้ สามารถทำยอดขายได้ 376 ล้านบาท และมีรายได้สุทธิ 341 ล้านบาท โดยมียอดขายรอโอนอยู่ที่ 146 ล้านบาท ที่มาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขายทั้งหมด 7 โครงการ ได้แก่ 6 โครงการที่นนทบุรี  และ 1 โครงการที่อุดรธานี ซึ่งปัจจุบันมีขายไปแล้วกว่า 40% คงเหลือรอขาย รวมทั้งสิ้น 2.09 พันล้านบาท

Back to top button