M เติบโตต่อเนื่อง

M คาดว่ามีการเปิดสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา อีกทั้งจะมีการปรับราคาขายขึ้นในช่วงไตรมาส 4 แต่แนวโน้ม margin จะดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนราคาวัตถุดิบหลักอย่างเช่นอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ปรับลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น


—คุณค่าบริษัท—

 

สำหรับครึ่งปีหลังของ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M คาดว่ามีการเปิดสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา อีกทั้งจะมีการปรับราคาขายขึ้นในช่วงไตรมาส 4 แต่แนวโน้ม margin จะดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนราคาวัตถุดิบหลักอย่างเช่นอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ปรับลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น

ผลดังกล่าวจะยังช่วยผลักดันบริษัทรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น!!

ขณะที่ปี 2560 เชื่อว่าภาพเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวจะหนุนให้กำลังซื้อกลับมาได้ดีกว่าเดิม ซึ่งส่งให้ให้ SSSG กลับมาเป็นบวกอีกครั้งหลังจากที่ติดต่อกันมาตลอด 3 ปีจากผลของภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ปัญหาการเมืองในประเทศ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และการแข่งขันในธุรกิจอาหารส่งให้ผลการดำเนินงานของ M เป็นไปในทิศทางเดียวกับ SSSG ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีแผนการเปิดสาขาของบริษัทยังอยู่ที่ประมาณ 30-40 สาขาต่อปี

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดหมายยอดขายปี 2560 ที่ 15,969 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ภายใต้การเปิดสาขา 35 สาขา และ SSSG ของร้านสุกี้ เพิ่มขึ้น 2% ส่วนยาโยอิ เพิ่มขึ้น 8% แนวโน้มราคาวัตถุดิบคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนักส่งผลให้ margin ยังใกล้เคียงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การรับรู้ส่วนแบ่งเงินลงทุนคาดจะมีขาดทุนลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณการกำไรสุทธิ 2,020 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน   

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา โดยไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,135.38 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,861.79 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 613.23 ล้านบาท หรือ 0.67 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 515.87 ล้านบาท หรือ 0.57 บาทต่อหุ้น

ทำให้ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่  30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7,820.60 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 7,563.28 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,051.51 ล้านบาท หรือ 1.16 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 995.67 ล้านบาท หรือ 1.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่เนื่องจากการขยายสาขาของร้านอาหารเอ็มเคสุกี้และร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายของสาขาเดิม ทำให้บริษัทรักษาสามารถในการทำกำไรได้ดีอยู่

เมื่อวิเคราะห์ในส่วนของฐานะทางการเงินของบริษัท พบว่า มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งมาก โดยมีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 9,717.66 ล้านบาท เมื่อเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนรวม 1,577.70 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 6.16 เท่า ถือว่ามากเกินความจำเป็น บ่อเกิดทุนจม ขณะที่หนี้สินของบริษัทก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง เพราะมีหนี้สินรวมเพียง 1,882.98 ล้านบาท เทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 13,196.67 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.15 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทปลอดหนี้จริงๆ   

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล. ฟิลลิป มองว่าจากแนวโน้มการดำเนินงานที่ฟื้นตัวตามลำดับ ทำให้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” ปรับใช้ราคาพื้นฐานปี 2560 เป็น 55.50 บาท 

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นางยุพิน ธีระโกเมน 363,199,979 หุ้น 39.90%

2.นายสมชาย หาญจิตต์เกษม 164,210,012 หุ้น 18.04%

3.นายฤทธิ์ ธีระโกเมน 139,743,333 หุ้น 15.35%

4.มูลนิธิ ป้าทองคำ เอ็มเค 31,265,983 หุ้น 3.43%

5.N.C.B.TRUST LIMITED-NORGES BANK 11 22,361,200 หุ้น 2.46%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการ

2.นาย ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

3.นาย สมชาย หาญจิตต์เกษม กรรมการ

4.นาย สมชาย พิพิธวิจิตรกร กรรมการ

5.นาย สุจินต์ ชุมพลกาญจนา กรรมการ

Back to top button