PCSGH คาดกำไร Q2/60 โตต่อเนื่อง เดินหน้าศึกษาลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

PCSGH คาดกำไร Q2/60 โตต่อเนื่อง หลังต้นทุนลดลง เล็งส่งสินค้ารุกตลาดเอเชีย-ยุโรปโดยตรง หวังดันสัดส่วนรายได้ส่งออกเพิ่มขึ้น คาดชัดเจนในปีนี้ พร้อมเดินหน้าศึกษาลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง


นายประสงค์ อดุลยรัตนนุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH กล่าวว่า บริษัทมองแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/60 เป็นผลจากการดำเนินการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ในไตรมาสสองน่าจะปรับตัวลดลง จากเป็นช่วงของโลซีซั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะมีวันหยุดค่อนข้างมาก

โดยปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นออเดอร์ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ อายุโครงการเฉลี่ย 3-6 ปี คาดจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัท มีสัดส่วนรายได้มาจากชิ้นส่วนรถกระบะราว 90% และที่เหลือเป็นชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์

ขณะที่แผนการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายโดยตรงนั้น คาดว่าภายในปลายปีนี้น่าจะได้เห็นความชัดเจนของการรุกตลาดเอเชียและยุโรป เพื่อผลักดันสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ราว 2% อีกทั้ง บริษัทยังมองโอกาสผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าให้กับค่ายรถยนต์ในต่างประเทศอีกด้วย หากในอนาคตมีความชัดเจนของรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปรับงานดังกล่าว

ปีนี้เรายังมองภาพรวมเป็นบวก โดยรายได้และกำไรสุทธิก็น่าจะเติบโตกว่าปีก่อน เป็นไปตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เติบโต หรือมียอดการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 2 ล้านคัน และงานในมือที่อยู่ในระดับสูง ที่คาดจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง  ขณะที่คาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 15% และอัตรากำไรขั้นต้นที่จะอยู่ที่ระดับ 20%”นายประสงค์ กล่าว

สำหรับงบลงทุนปีนี้วางไว้ที่ 200-280 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่มีแผนจะขยายเพิ่มอีก 2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้า (COD) ได้ในช่วงไตรมาส 3/60 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัท และจะใช้เงินลงทุน 60-70 ล้านบาทส่วนที่เหลือในการซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาเพื่อรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตราว 75-80% คาดว่าสิ้นปีนี้กำลังการผลิตก็น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามออเดอร์ที่เข้ามาเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรือธุรกิจที่จะเข้ามาต่อยอดธุรกิจเดิม โดยมีความสนใจในธุรกิจกลุ่มชิ้นส่วนอลูมิเนียม และธุรกิจพลังงาน ซึ่งรูปแบบของการลงทุนมีความเป็นไปได้ทั้งการร่วมลงทุน (JV) และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) หากมีการลงทุนเกิดขึ้นบริษัทก็มีกระแสเงินสดที่เพียงพอ โดยปัจจุบันมีเงินสดในมือราว 1,250 ล้านบาท

Back to top button