KC เบี้ยวหนี้ 470 ลบ. เจ้าหนี้รายใหญ่”โซลาริส”โร่ฟ้องศาลฯนัดคุย7ส.ค.

KC เบี้ยวหนี้ร่วม 470 ลบ. ฟากเจ้าหนี้รายใหญ่ "โซลาริส" โร่ฟ้องศาลฯนัดไกล่เกลี่ย 7 ส.ค.นี้


บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ทำการขอขยายระยะเวลาส่งแผนการชำระหนี้กับ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนโซลาริส จำกัด หรือ บลจ.โซลาริส ออกไปจนถึงวันที่ 23 มิ.ย.60 โดยได้ว่าจ้างบริษัท โอไรออนซ์ แอดไวซอรี่ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งบริษัทได้มอบหมายให้จัดทำแผนการชำระหนี้คืนให้แก่ บลจ.โซลาริส เพื่อให้แผนการชำระหนี้ที่จะเสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของบลจ.โซลาริส มีความชัดเจนและเป็นระบบนั้น

โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับแจ้งจากที่ปรึกษาว่ายังดำเนินการจัดทำแผนการชำระหนี้ที่จะเสนอต่อผู้ถือหน่วยของ บลจ.โซลาริสไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทางที่ปรึกษาแจ้งว่าจะจัดทำแผนการชำระหนี้แล้วเสร็จภายในอีก 1 เดือน ทางบริษัทจึงได้มีหนังสือขยายเวลาการส่งแผนการชำระหนี้ถึง บลจ.โซลาริส เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.60

ล่าสุด ในวันนี้ 3 ก.ค.60 บริษัทได้รับคำฟ้องของ บลจ.โซลาริสในคดีแพ่งตามหมายเรียกคดีแพ่งของศาลแพ่งในคีดหมายเลขดำที่ มย 119/2560 ระหว่างกองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 4, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 5 , กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 3,กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 1, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 6 เอ็ม 6 เป็นโจทก์ ฟ้อง KC ในข้อหาหรือฐานความผิดตั่วเงิน (ตั๋วแลกเงิน) , หนังสือรับสภาพหนี้, บังคับจำนอง, เรียกค่าเสียหาย จำนวนทุนทรัพย์ตามคำฟ้อง 365,618,264.84 บาท กำหนดการไกล่เกลี่ย แก้ไขข้อหาคดี และสืบพยานในวันที่ 7 ส.ค.60 เวลา 13.30 น.

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะทำการแต่งทนายความว่าต่างแก้คดีในวันดังกล่าว โดยยังคงมีความประสงค์จะเข้าเจรจาต่อรองไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นศาลเพื่อหาแนวทางในการยุติข้อพิพาทกับ บลจ.โซลาริส ตามแผนการชำระหนี้ที่จะเสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของ บลจ.โซลาริส

สำหรับผลกระทบต่อวงเงินสินเชื่อของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทมีวงเงินสินเชื่อต่อบุคคลภายนอก คือ วงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ KTB จำนวน 103.4 ล้านบาท, ธนาคารธนชาต จำนวน 4.5 ล้านบาท และ กองทุนเปิดโซลาริส จำนวน 350 ล้านบาท (กรณีฟ้องร้อง)

ส่วนวงเงินสินเชื่อบุคคลธรรมดา (ตั๋วแลกเงินเสนอขายบุคคลในวงจำกัด) ได้แก่ นางปวีณา พรโชติทวีรัตน์ จำนวน 15 ล้านบาท, นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ จำนวน 8 ล้านบาท, นางสาวสุจิตรา ชุณหนิรันฤทธิ์ จำนวน 20 ล้านบาท, นางสุภาภรณ์ เติมรัตนกุล จำนวน 10 ล้านบาท และ นายสมเกียรติ สุขศิริกุล จำนวน 20 ล้านบาท โดยรวมภาระหนี้ของบริษัท มีทั้งหมดจำนวน 530.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ หนี้ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างบริษัทเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในระยะเวลา 2 เดือน ขณะที่หนี้ในส่วนของธนาคารธนชาต บริษัทน่าจะสามารถชำระหนี้คืนได้หมดภายในเดือน ส.ค.60

ส่วนเจ้าหนี้ วงเงินสินเชื่อบุคคลธรรมดา บริษัทได้มีการเจรจาตกลงกับเจ้าหนี้ทุกรายและเจ้าหนี้ทุกรายตกลงขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้แก่บริษัท โดยไม่ถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้

ดังนั้น การใช้สิทธิเรียกร้องของกองทุนเปิด บลจ.โซลาริส ในการฟ้องร้องให้บริษัทชำระหนี้คืน จำนวน 350 ล้านบาท น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้าหนี้รายอื่นผู้ให้สินเชื่อ

Back to top button