SAWAD-MTLS หุ้นเด่นกลุ่ม “นอน-แบงก์”

กลุ่มผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอน-แบงก์) คาดเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 หนุนโดยสินเชื่อที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัทและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว


เส้นทางนักลงทุน

กลุ่มผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอน-แบงก์) คาดเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 หนุนโดยสินเชื่อที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัทและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

สำหรับบริษัทที่น่าสนใจ และเชื่อว่ายังคงเป็นดาวในกลุ่มนอน-แบงก์ คือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS ซึ่งคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากสินเชื่อที่เชื่อว่าจะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งนั่นเอง ตามความสามารถที่บริษัทเคยทำผลงานมาก่อนหน้าที่ผลรายได้และกำไรขยับขึ้นทุกปีจากปี 2557 ถึงปัจจุบัน

เนื่องจากทาง SAWAD วางแผนขยาย 200-300 สาขาต่อปี ซึ่ง ณ ไตรมาส 3 ปี 2560 บริษัทมีจำนวนสาขาที่ 2,422 สาขา ขณะที่ MTLS ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนสาขาประมาณ 600 สาขา ส่วน ณ ไตรมาส 3 ปี 2560 บริษัทมีจำนวนสาขาที่ 2,294 สาขา

นอกจากนี้ ในประเทศไทยยังมีแรงงานที่อยู่นอกระบบมากกว่า 50% ของแรงงานทั้งหมด บ่งบอกว่ายังมีโอกาสอีกมากในตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ (untapped market) โดยคาดสินเชื่อของทั้ง SAWAD และ MTLS จะเติบโต 40% ในปี 2561

นอกจากนี้ ยังมีบทวิเคราะห์จากสำนักงานต่างๆ คงไปทิศทางเดียวว่าทั้งสองบริษัทยังเป็นบวก คือเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป

ตัวอย่างบทวิเคราะห์ เช่นหุ้น SAWAD จากนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ยังคงประมาณการกำไรปี 2560-2561 ไว้เหมือนเดิมที่ 2.6 พันล้านบาท และ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 25.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ

อีกทั้งมองว่าบริษัทน่าจะยังสามารถคาดหวังการเติบโตที่โดดเด่นได้ต่อเนื่องในปี 2561 โดยการถือหุ้นใน BFIT น่าจะเป็นส่วนช่วยในการทำธุรกิจให้ไม่สะดุด และน่าจะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินโดยรวมลดลงได้ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ทำให้ต้องปรับคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” ที่แนะนำไปในรายงาน “จับหุ้นเด่น เฟ้นหุ้นดี รับปีจอ 2561” ลงมาเป็น “ทยอยซื้อ”

เช่นเดียวกับหุ้น MTLS ที่มีบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส  มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 และปี 2561 ขึ้น 5% และ 2% ตามลำดับเป็น 2.4 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 67% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) ในปี 2560 และ 3.4 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) ในปี 2561

สำหรับระยะสั้นราคาหุ้นมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ปี 2560 ที่คาดว่าจะดีที่สุดในปีและทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ราว 680-700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-8% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 40-45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามฤดูกาลที่ดีของการปล่อยสินเชื่อเพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรและฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในปลายปี

ส่วนปี 2561 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการอุปโภคบริโภคของเอกชนจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อความต้องการสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อและแรงหนุนจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่ผ่อนคลายลงส่งผลต่อความสามารถในการก่อหนี้และชำระหนี้ได้ดีขึ้น  คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับเพิ่มคงราคาเหมาะสมปี 2561 เป็น 48 บาท

ถือว่า SAWAD และ MTLS เป็นหุ้นที่น่าลงทุนสุดในกลุ่มนอน-แบงก์!!    

Back to top button