PJW ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 3 พันลบ.ในปี 60 รับแรงขับเคลื่อนจากโรงพ่นสีใหม่

PJW ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 3 พันลบ.ในปี 60 รับแรงขับเคลื่อนจากโรงพ่นสีใหม่


นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ทะลุ 3 พันล้านบาทในปี 60 ซึ่งจะเน้นขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับกลุ่มยานยนต์ไม่ว่าจะเป็นงานชิ้นส่วนหรือโรงพ่นสี ซึ่งโรงพ่นสีจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างดีประมาณ 30 % ส่วนธุรกิจอื่นจะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ประมาณ 20%

ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,300 ล้านบาท ปัจจุบันรายได้ของบริษัทฯประมาณ 60% จะมาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ 25% ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในผลิตภัณฑ์ประเภทนมและนมเปรี้ยว 12% ที่เหลือเป็นโรงพ่นสีและบรรจุภัณฑ์ในงานเคมี

ทั้งนี้ ธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี เป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะทำรายได้และกำไรให้กับบริษัท โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ราว 100-200 ล้านบาท และในปี 59 คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน โดยขณะนี้มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 70-100 ล้านบาท และหากมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) จะสร้างรายได้ 600-800 ล้านบาท บริษัทมั่นใจว่าในปีหน้ากำไรสุทธิจะเติบโตได้เกิน 20% ประกอบกับปีนี้การลงทุนในจีนก็ถึงจุดคุ้มทุนไปแล้วจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทออกมาดีด้วย

นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/58 ก็น่าจะเติบโตได้ดีอยู่ ซึ่งทั้งปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้า 10% โดยคาดว่ารายได้จากธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 100% ล่าสุดมีออเดอร์โมเดลรถยนต์จากค่ายรถยนต์ต่างๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 20% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางตลาดนมส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวมากขึ้นในปีนี้

บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าใหม่อีก 1-2 รายในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายปี 2558 ขณะที่ออเดอร์จากลูกค้ารายเดิม 2 รายทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นในประเทศจีนปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่น และในปีนี้มียอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่ของลูกค้ารายเดิม อย่างไรก็ตาม ในปี 62 บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันที่ 10%

ขณะที่บริษัทคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)จะเพิ่มมาที่ 4% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.5% และบริษัทมองว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)น่าจะสูงขึ้นราว 2-3% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 14.61% เพราะต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ราคาปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก

บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นประมาณ 30 ล้านบาทจะใช้สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในจีน และอีก 20 ล้านบาทจะใช้ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรในไทย ปีนี้งบลงทุนของบริษัทจะไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับในอดีต เพราะได้มีการลงทุนไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การลงทุนในโรงพ่นสี เป็นต้น

Back to top button