DTC ทุ่มเกือบ 500 ลบ. ซื้อ “LVM Holdings” ครองธุรกิจวิลล่าครบวงจรในอาเซียน

DTC ทุ่มเกือบ 500 ลบ. ซื้อ "LVM Holdings" ครองธุรกิจวิลล่าครบวงจรในอาเซียน


บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยถึงการเข้าลงทุนใน LVM Holdings Pte. Ltd. (“LVM Holdings”) ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ทั้งหมด 9 บริษัทที่จัดตั้งในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประกอบธุรกิจทำการตลาด (market) ดำเนินการจอง (booking) และบริหารจัดการ (manage) วิลล่าระดับหรู (luxury villas) แบบครบวงจรภายใต้แบรนด์ Elite Havens

ทั้งนี้ Dusit Overseas Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่จดทะเบียนที่ฮ่องกง ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นในวันที่ 7 กันยายน 2561 กับกลุ่มผู้ขายซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ LVM Holdings บริษัทซึ่งจดทะเบียนที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็น Ultimate Holding Company ของกลุ่ม Elite Havens โดย LVM Holdings ถือหุ้นโดยตรงและโดยอ้อมในบริษัททั้ง 9 บริษัท

โดยปัจจุบัน LVM Holdings มีวิลล่าในเครือข่ายในประเทศ อินโดนีเซีย ประเทศไทย มัลดีฟส์ และศรีลังกา LVM Holdings ได้เริ่มเข้าให้บริการในประเทศญี่ปุ่น และมีแผนที่จะเปิดให้บริการในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

สำหรับการลงทุนครั้งนี้ มีเงื่อนไขบังคับที่สำคัญหลายประการตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งรวมถึงการที่ผู้ขายจะต้องดำเนินการให้ผู้ที่มีสิทธิในการซื้อหุ้นของบริษัทปัจจุบันยกเลิกสิทธิของตนทั้งหมดทุกรายก่อน

ทั้งนี้การลงทุนครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์เมื่อบรรลุเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าว ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 14 กันยายน 2561 โดยจะมีมูลค่าการลงทุนก่อนภาษี ประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 495 ล้านบาท โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อ1 เหรียญสหรัฐอเมริกา

โดยที่ราคาซื้อหุ้นใน LVM Holdings เป็นราคาที่ทางบริษัท ได้เจรจาตกลงกันกับผู้ขายซึ่งเป็นราคาที่ประเมินตามวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสด (discounted cash flow) โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผลประกอบการในอดีต ลักษณะและความเสี่ยงของธุรกิจโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมแผนธุรกิจในอนาคตของผู้บริหาร

อย่างไรก็ตาม การทำรายการดังกล่าวเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ขนาดของรายการสูงสุด และขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์สะสมในรอบหกเดือนย้อนหลัง ไม่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีนัยสำคัญตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญ และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์พ.ศ. 2547

อนึ่ง การลงทุนใน LVM Holdings นั้นเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัทที่เน้นแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการที่ครบวงจรให้กับกลุ่มบริษัท

Back to top button