TSTH แจงระเบิดเตาหลอมไม่กระทบพื้นที่ใกล้เคียง เร่งอุดแผนป้องกันเกิดเหตุซ้ำตามคำสั่งกนอ.

TSTH แจงระเบิดเตาหลอมไม่กระทบพื้นที่ใกล้เคียง เร่งอุดแผนป้องกันเกิดเหตุซ้ำตามคำสั่งกนอ.


บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในเตาหลอมเหล็ก บริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม
จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อเวลาประมาณ 08:15 น. ของวันที่ 6 ตุลาคม 2561 ในขณะที่กำลังอุ่นเตาหลอมเหล็ก (Electric Arc Furnace: EAF) ภายหลังจากการเปลี่ยนอิฐทนไฟของเตาหลอม

โดยชี้แจงว่า ไม่มีการรั่วไหลของสารเคมีอันตรายใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โรงงานข้างเคียงและชุมชนโดยรอบแต่อย่างใด ทั้งนี้ การผลิตที่โรงรีดเหล็กยังคงเป็นไปตามปกติ โดยอุบัติเหตุดังกล่าวมีพนักงานจำนวน 4 คน ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ใกล้บริเวณเตาหลอมในช่วงเวลาที่มีการระเบิดได้รับบาดเจ็บ และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพระยองในทันที ซึ่งพนักงานจำนวน 2 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ ในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน มีบาดแผลไฟไหม้ จึงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ บริษัทได้ให้การดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดอย่างดีที่สุด

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ การปฏิบัติการเพื่อให้โรงหลอมเหล็กสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยได้เริ่มเดินหน้าซ่อมแซมเครื่องจักรและหลังคาที่ได้รับความเสียหาย ทีมผู้เชี่ยวชาญได้รับการแต่งตั้งให้เร่งดำเนินการทวนสอบระบบความปลอดภัยของเตาหลอมเหล็ก

ทั้งนี้ บริษัทจะได้จัดทำมาตรการด้านความปลอดภัยที่จำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกเพื่อจัดให้มีการรับรองด้านความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ตลอดจนจะได้จัดให้มีการทบทวนและจัดซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินของโรงงาน ตามคำสั่งของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ต่อไป

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ กนอ.ได้อาศัยตามมาตรา 37 พระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ.2535 โดยสั่งให้บริษัทดังกล่าวหยุดกิจกรรมบริเวณเตาหลอมโดยทันที พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดระเบิดดังกล่าว และจัดทำมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ โดยบริษัทจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และต้องแจ้งให้ กนอ.ทราบ ภายในระยะเวลา 15 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง พร้อมทั้งเสนอความคืบหน้าให้กับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดต่อไป

Back to top button