ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์” บ.ลูก ACAP เตรียมลงสนามเทรด mai ต้นปี 62

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์” หรือ GSC ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลและติดตามทวงถามหนี้ ซึ่งเป็นบริษัทลูก ACAP ขาย IPO 90 ล้านหุ้น เตรียมลงสนามเทรด mai ต้นปี 62 โดยมี บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาอนุมัติให้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing)  เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90  ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 36% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงต้นปี 62

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ส่วนโดยจะมีการเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวนไม่เกิน 27 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายในครั้งนี้ และเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป จำนวนไม่เกิน 63 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 70% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขาย

โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน จำนวน 125  ล้านบาท ซึ่งทุนที่เรียกชำระแล้ว จำนวน 80 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมี ACAP ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 159.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 99.99% ซึ่งภายหลังจากเสนอขาย IPO จำนวน 90  ล้านหุ้นแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ ACAP จะลดลงเหลือ 64%

ด้าน นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACAP ในฐานะบริษัทแม่ เปิดเผยว่า GSC ดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล (Call Center Service) และติดตามทวงถามหนี้ (Collection Service) โดยบริษัทมีจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์การทำงาน มากว่า 14 ปี ปัจจุบัน GSC ได้ให้บริการแก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในหลากหลายภาคธุรกิจ อาทิ กลุ่มธุรกิจการเงิน สื่อสารโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการให้บริการลูกค้าด้วยรูปแบบการบริการที่ยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองและคำนึงถึงประโยชน์ และความต้องการที่ลูกค้าจะได้รับมากที่สุด

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้สำหรับการขยายสาขา รวมถึงปรับปรุง พัฒนาอุปกรณ์ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ใช้ในการดำเนินงาน และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ตามแผนขยายงานในอนาคต

โดยเฉพาะการขยายสาขาทั้งภายในกรุงเทพ และต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มกำลังการให้บริการ และเป็นการกระจายความเสี่ยงทั้งในด้านของการจัดหาพนักงาน และการเป็นศูนย์การให้บริการสำรอง (Back-up Site) ในกรณีที่สาขาอื่นๆ เกิดเหตุที่ไม่สามารถทำงานได้ โดยบริษัทฯ จะจัดตั้งขยายสาขาในกรุงเทพเพิ่มเติมอีก 1 สาขา คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งสูงสุด 300 ที่นั่ง และมีแผนขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัด อีก 2 สาขา อาทิ ราชบุรี และสุพรรณบุรี เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ  ระบบปฏิบัติการ Avaya ระบบปฏิบัติการ 3CX ระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการของบริษัทฯให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแผนการขยายงานดังกล่าว จะเป็นการสอดรับกับนโยบาย และวิสัยทัศน์ ของบริษัทฯที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำ การให้บริการงาน Outsource ต่างๆ ที่ครบวงจร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า GSC  มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 58 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการตามงบการเงินเฉพาะกิจการ จำนวน 105.83 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 4.58 ล้านบาท  ปี 59 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 135.38 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 24.89 ล้านบาท  ปี 60 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 151.53 ล้านบาท  มีกำไรสุทธิ 26.16 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกปี 2561 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 114.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.90 ล้านบาท

 

Back to top button