MEGA กางแผนปี 62 ทุ่มงบ 120 ลบ.ปรับปรุงเครื่องจักร-เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่หนุนผลงานโต 10%

MEGA กางแผนปี 62 ทุ่มงบ 120 ลบ.ปรับปรุงเครื่องจักร-เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่หนุนผลงานโต 10%


นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ๊นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 66 จะเติบโตเป็นเท่าตัว หรือแตะ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,206.01 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการขยายตลาดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า, การออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนงานพัฒนายาใหม่ในประเทศเมียนมาร่วมกับพันธมิตรประเทศอินเดีย คือ บริษัท MSN Laboratories Private Limited (India) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย ซึ่งแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นในสัดส่วน 50:50 เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตยาระดับโลกเพื่อผลิตยาขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับโรคเนื้องอก (มะเร็ง) โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ เป็นต้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน คาดว่าจะเริ่มผลิตและวางจำหน่ายได้ในปี 65

รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างมองหาโอกาสเข้าซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ยาเพิ่มเติมอีก หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเข้าซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ยาในประเทศเอธิโอเปีย เพื่อจำหน่ายในประเทศเมียนมาและเอธิโอเปีย เพื่อเป็นการต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจ

สำหรับในปี 62 บริษัทยังคงเป้ารายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตราว 8-10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 10,456.21 ล้านบาท และ 1,206.01 ล้านบาท ตามลำดับ เป็นไปตาม 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เมก้าวีแคร์ (MegaWecare), ผลิตภัณฑ์ Maxx care และการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ (OEM) เติบโตต่อเนื่อง

ในส่วนของผลิตภัณฑ์เมก้าวีแคร์ ยังคงมุ่งเน้นใน 5 ประเทศหลัก คือ ไทย, เวียดนาม, เมียนมา, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ก็ได้มีการขยายตลาดเข้าไปในประเทศใหม่จำนวน 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศโคลัมเบีย และเอธิโอเปีย ก็คาดว่าในปีนี้จะสามารถเห็นยอดขายเข้ามามากขึ้น

ส่วนผลิตภัณฑ์ Maxx care บริษัทฯ มีการจำหน่ายใน 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา ก็มีการเติบโตมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาในเวียดนามบริษัทฯ ได้หันมากระจายสินค้าด้วยตัวเอง และการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันมีการผลิตในประเทศไทยและออสเตรเลีย ก็มีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นและในปีนี้ลูกค้าดังกล่าวก็น่าจะมีการจ้างให้ผลิตต่อ

นายวิเวก กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนปกติไว้ที่ 100-120 ล้านบาท โดยจะใช้ปรับปรุงเครื่องจักร และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่การลงทุนต่อเนื่องในเมียนมาจะสร้างสำนักงานเพิ่มเติม หลังจากสร้างศูนย์กระจายสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้วในปีที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนที่ 150 ล้านบาท และในประเทศไทยจะมีการลงทุนสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม และศูนย์ควบคุมคุณภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างโรงงานผลิตยาในรูปแบบใหม่บนที่ดินที่อยู่ติดกับโรงงานในปัจจุบัน จำนวน 425 ล้านบาท ในช่วงปี 62-63

“ปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา จากการลงทุน รองรับการขยายธุรกิจ โดยเรามองรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้น่าจะเติบโต 8-10% ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ จากการเติบโตใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/62 เราก็มองแนวโน้มผลการดำเนินงานน่าจะเติบโตดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น” นายวิเวก กล่าว

นายวิเวก กล่าวอีกว่า ด้านการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุน บริษัท เมก้า มาลี จำกัด ในปีที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ไปแล้วจำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อ DR.Drink และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร โดยในปีนี้คาดว่าจะออกไปเพิ่มอีก 2 ผลิตภัณฑ์ จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

Back to top button