ก.ล.ต.เปิดตัวแอปฯ “SEC Check First” หวังสร้างภูมิคุ้มกันนลท.ป้องกันตกเป็นเหยื่อกลโกง

ก.ล.ต.เปิดตัวแอปฯ “SEC Check First” หวังสร้างภูมิคุ้มกันนลท.ป้องกันตกเป็นเหยื่อกลโกง


นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญในด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนให้เข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินนโยบายของ ก.ล.ต. จึงริเริ่มโครงการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนและประชาชน ให้สามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้ง่ายและสะดวก ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อกลโกงการลงทุน และยกระดับการคุ้มครองผู้ลงทุน

โดยแอปพลิเคชัน SEC Check First สามารถค้นหาข้อมูลบุคคลหรือบริษัท ผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งปรากฏในทะเบียนรายชื่อ Investor Alert โดยมีขั้นตอนการค้นหาที่สะดวก และรวดเร็วจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เพียงใส่ชื่อที่ต้องการจะทราบว่ารายชื่อดังกล่าวได้รับใบอนุญาต หรือความเห็นชอบ หรือจดทะเบียนภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. หรือไม่

นอกจากนี้ ผู้ใช้แอปพลิเคชัน SEC Check First ยังสามารถสอบถามข้อมูลหรือชี้เบาะแสที่หน้าแอปพลิเคชันได้ทันที อาทิ โทร. 1207 อีเมล : [email protected] แบบฟอร์มออนไลน์ และลิงค์ไปยังหน้าเรื่องร้องเรียนของเว็บไซต์ ก.ล.ต.

สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ IOS สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานได้จาก AppStore และ Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ Android

นอกจากนี้ นางสาวรื่นวดี เปิดเผยถึงผลประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ครั้งที่ 8/2562 ว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต.มีมติเห็นชอบอนุญาตให้วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) ที่จดทะเบียนตามพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถขายหุ้นต่อประชาชนได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตสำนักงาน เช่นเดียวกับบริษัทประชารัฐ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้กิจการดังกล่าวสามารถระดมทุน เพื่อใช้ในการดำเนินการเพื่อพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอันเป็นประโยชน์แก่สังคม

โดยนำผลกำไรไม่น้อยกว่า 70% ไปใช้เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน แก้ไขพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม หรือใช้เพื่อประโยชน์ส่วนร่วมอื่น หรือคืนประโยชน์แก่สังคม ส่วนอีกไม่เกิน 30% จะแบ่งเป็นกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตามก.ล.ต.จะเสนอแนวทางการอนุญาตดังกล่าวต่อคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเพื่อพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีวิสาหกิจเพื่อสังคม ที่จดทะเบียนตามพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม จำนวน 33 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นบริษัท 29 บริษัท

นางสาวรื่นวดี กล่าวอีกว่า คณะกรรมการก.ล.ต.มีมติเห็นชอบแนวทางการกำกับดูแลตลาดตราสารหนี้ โดยเตรียมออกเกณฑ์การกำกับดูแลตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP-วงแคบ) หรือการเสนอขายต่อผู้ลงทุนไม่เกิน 10 ราย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล หลังจากพบว่ามีจุดอ่อนในระบบ (ecosystem)

เช่น ผู้ออกหุ้นกู้ มีบางส่วนมีความเสี่ยงด้านฐานะ ซึ่งมักเสนอขายผ่านช่องทางที่ไม่มีการยื่นแบบเสนอขาย (ไฟลิ่ง) ผู้ลงทุนจึงขาดข้อมูล, ตัวกลางการขายและข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เล่นหลักในการขายตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงให้ผู้ลงทุนรายบุคคล งบการเงินมีความล่าช้า และข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้าใจยาก ขณะที่ผู้ลงทุนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และเข้าใจว่าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย

อย่างไรก็ตามเกณฑ์การกำกับดูแลตลาดตราสารหนี้ฯ แบบใหม่จะไม่อนุญาตให้มีการเสนอขายตราสารหนี้ดังกล่าวแก่นักลงทุนทั่วไป (รายย่อย), นักลงทุนกลุ่ม High Net Worth และนักลงทุนนิติบุคคล แต่ยังสามารถเสนอขายตราสารหนี้ให้แก่นักลงทุนสถาบัน (II) และกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทที่ออกตราสารหนี้, เพิ่มการติดตามผู้ออกและกำกับดูแลตามระดับความเสี่ยง, ยกระดับคุณภาพตัวกลาง/professional รวมถึงเพิ่มคุณภาพข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และเพิ่มกลไกจัดการเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (default)

โดยหลังจากนี้ ก.ล.ต.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 14 ส.ค.62 และคาดว่าจะสามารถเปิดรับฟังความคิดเห็นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง (Hearing) ได้ภายในเดือนส.ค.นี้ ซึ่งหากทุกฝ่ายเห็นชอบก็จะดำเนินการบังคับใช้ต่อไป

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) จำนวน 6 ราย ได้แก่ นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์, นายจรัมพร โชติกเสถียร, นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์, นางวรวรรณ ธาราภูมิ, นายเสรี นนทสูติ และนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เพื่อให้องค์คณะของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์เป็นไปตามองค์ประกอบที่แก้ไขเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2562 โดยผู้ได้รับการแต่งตั้งจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี นับแต่วันที่ 5 ส.ค.62 เป็นต้นไป

ส่วนคณะกรรมตลาดหลักทรัพย์ ที่ตลาดหลักทรัพย์เลือกตั้ง มีจำนวน 4 คน ได้แก่ นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ, นายไพบูลย์ นลินทรางกูร, นายนรเชษฐ์ แสงรุจิ และนายธิติ ตันติกุลานันท์

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ตามองค์ประกอบใหม่ชุดแรก พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 6) (มาตรา 39) ระบุให้กรรมการตลาดหลักทรัพย์ทั้งในส่วนที่คณะกรรมการก.ล.ต. แต่งตั้งและที่สมาชิกของตลาดหลักทรัพย์เลือกตั้ง พ้นจากตำแหน่งฝ่ายละกึ่งหนึ่ง เมื่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ทำหน้าที่ครบ 1 ปี 6 เดือน โดยใช้วิธีจับฉลาก และให้ถือว่าเป็นการพ้นตำแหน่งตามวาระ

Back to top button