ความหวังครั้งใหม่

*แม้วันนี้ยังไม่สามารถเอาชนะไวรัสมรณะโควิด-19 ได้เสียที แต่ก็เห็นสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เกิดขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่กันในยามภัยมาเยือน “โมนิก้า” ถึงมองมาตรการที่ออกมาจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน คือการร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ แม้จะมีพวกนักการเมืองปากพล่อยที่ชอบเอาดีเข้าตัวปะปนอยู่บ้าง และมีคนจำพวก “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” ผสมโรงเป็นประจำ แต่สุดท้ายก็โดนสังคมรุมประณามจนถอยกรูดไม่เป็นท่าทุกครั้งไปนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*แม้วันนี้ยังไม่สามารถเอาชนะไวรัสมรณะโควิด-19 ได้เสียที แต่ก็เห็นสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เกิดขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่กันในยามภัยมาเยือน “โมนิก้า” ถึงมองมาตรการที่ออกมาจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน คือการร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ แม้จะมีพวกนักการเมืองปากพล่อยที่ชอบเอาดีเข้าตัวปะปนอยู่บ้าง และมีคนจำพวก “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” ผสมโรงเป็นประจำ แต่สุดท้ายก็โดนสังคมรุมประณามจนถอยกรูดไม่เป็นท่าทุกครั้งไปนะคะ

*นั่นหมายความว่าในทางทฤษฎีทุกคนเริ่มสอบผ่านกันบ้างแล้ว เหลือแต่ในทางปฏิบัติจะออกมาในทิศทางสอบผ่านไหม ? “โมนิก้า” เลยขอแนะนำให้แฟนคลับติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเดี๊ยนไม่กล้าฟันธงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงขอดูเหตุการณ์แบบวันต่อวันไประยะหนึ่งก่อน และขอประเมินผลกระทบที่เกิดจากไวรัสมรณะจะแสดงผลชัดเจนเมื่อไหร่แล้วกันค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของดัชนีไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,124.28 จุด ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,099.76 จุด บวกไป 7.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.54 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการอัดเม็ดเงินเพื่อช่วยเรียกความเชื่อมั่นในการลงทุน และดูเหมือนทั่วโลกจะแฮปปี้กับแนวทางนี้เสียด้วย จึงพากันไล่ราคาหุ้นอย่างเมามันตลอดช่วงภาคเช้า ก่อนทุกอย่างจะพังทลายด้วยแรงขายที่หนักหน่วง พร้อมกับทำให้ “ศุกร์หลอก ๆ” ยังมีมนต์ขลังต่อไปเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของ BGRIM ขยับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน พร้อมด้วยความมั่นใจที่ล้นปรี่ของกองทุน “โมนิก้า” ย่อมคาดหวังที่จะได้เห็นราคาหุ้นไต่เพดานบินสูงขึ้นไปอีก เพราะการยืนปิดที่ระดับ 39.25              บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่เกจิอาจารย์ดังให้ไว้เสียด้วย จึงต้องเอ่ยถึงหุ้นดาวเด่นตัวนี้เป็นรายแรกไงล่ะคะ

*ส่วนพระรองอย่างหุ้นตราใบโพธิ์ SCB ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดสำหรับเวลานี้ เพราะมองในมุมของหุ้นต่ำบุ๊ก และปันผลงาม ก็ทำให้หุ้นแบงก์รายนี้แซงหน้าแบงก์อื่นขึ้นมาในทันที เมื่อรวมกับการปลดล็อกมาตรฐานบัญชีใหม่เข้ามาเป็นแรงหนุน ซึ่งจะทำให้ตัวกำไรปี 2563 ไม่ทรุดตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 66.25 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.25 พันล้านบาท น่าลงทุนมาก ๆ เจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของน้องมิ้น MINT กระชากขึ้นมาปิดที่ 16.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.13 พันล้านบาท ก็เป็นจังหวะของการไล่รอบใหม่ หลังราคาหุ้นทิ้งตัวลงมาลึก ส่วนจะไปได้ไกลขนาดไหน ? “โมนิก้า” คงพูดได้แค่เพียงว่า ต้องติดตามดูกันเอาเอง เพราะมองในมุมต่าง ๆ ที่เป็นผลบวกจริง ๆ ก็มองไม่ออกเหมือนกันว่าหุ้นจะยืนระยะได้นานแค่ไหนน่ะซี

*คล้ายกับกรณีของหุ้นนิคมอุตสาหกรรม AMATA อาศัยจังหวะที่ตลาดหุ้นสดใสซาบซ่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ หุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 9.95 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 233 ล้านบาท อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เดี๊ยนถึงกับต้องทบทวนการไล่ซื้อเป็นการด่วน เพราะเที่ยวก่อนมันเกิดเหตุการณ์ “ขึ้นแล้วลง” ไปหยก ๆ นะคุณพี่

*ในเมื่อชอบเล่นสั้น ๆ กันเป็นประจำ “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอารมณ์ไปดูหุ้น QH เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อเที่ยวนี้ต่อเนื่องขนาดไหน ? เพราะก่อนหน้านี้เคยทำท่าจะเปลี่ยนทิศเป็นขาขึ้น พอเอาเข้าจริงกลายเป็นเด้งเพื่อลง ต่อจากนั้นไหลลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินการยืนปิดที่ 1.82 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท มันน่าสนใจจริงอ๊ะป่าว!

*เช่นเดียวกับคนที่เข้ามาเคาะขวาหุ้น “รูป รส กลิ่น สี” RBF จนราคาหุ้นขยับจากจุดต่ำสุดเมื่อสองสามวันก่อนที่ทำไว้บริเวณ 2.78 บาทอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมายืนปิดที่ 3.30 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่น่าคิดสำหรับคนที่ติดตามหุ้นตัวนี้ หลังผู้บริหารออกมายืนยันว่าไม่กระทบจากไวรัสมรณะ และแผนงานยังเป็นไปตามเป้าที่วางไว้น่ะซี

Back to top button