CKP เคาะเลื่อนประชุมผถห.ลดเลี่ยงโควิด-19 พร้อมจ่ายปันผล 0.03 บาท 12 พ.ค.นี้

CKP เคาะเลื่อนประชุมผถห.ลดเลี่ยงโควิด-19 พร้อมจ่ายปันผล 0.03 บาท 12 พ.ค.นี้


นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขและมีการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายในวงกว้าง ภาครัฐจึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563

โดยสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ อาทิ  การปิดสถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน นั้น เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและภาครัฐ

ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการ CKP เมื่อวันที่13 เมษายน 2563 จึงมีมติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ซึ่งกำหนดไว้เดิมในวันอังคารที่ 28 เมษายน 2563  เวลา 14.00 น. ณ ห้องสุพรรณิการ์ ชั้น 4 อาคารวิริยะถาวร ถนนสุทธิสารวินิจฉัย กรุงเทพมหานคร ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

โดยบริษัทต้องขออภัยท่านผู้ถือหุ้นเป็นอย่างสูงที่ต้องเลื่อนการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 อย่างไรก็ตาม บริษัทจะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาทางเลือกการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นด้วยวิธีการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้สามารถทำได้เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 2562 ตามงบการเงินล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.0300 บาท และกำหนดให้วันที่ 27 เมษายน 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563

“บริษัท และบริษัทในเครือพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและคำสั่งต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงของรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อให้การยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ ตามที่บริษัทมีมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ณ โรงไฟฟ้าและสำนักงานของบริษัทและบริษัทในเครือทุกแห่ง ทั้งในประเทศไทยและสปป.ลาว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และบริษัทไม่นิ่งนอนใจ ยังคงมีมาตรการเข้มงวดสูงสุดในการป้องกันการ

Back to top button