PTT โชว์ยอดจองหุ้นกู้ทะลัก 6.5 หมื่นลบ. สะท้อนเชื่อมั่นธุรกิจ-ตอกย้ำฐานะการเงินแกร่ง

PTT โชว์ยอดจองหุ้นกู้ทะลัก 6.5 หมื่นลบ. สะท้อนเชื่อมั่นธุรกิจ-ตอกย้ำฐานะการเงินแกร่ง


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า แม้ปตท.จะห่างหายจากการออกหุ้นกู้มาตั้งแต่ปี 2558 แต่ปตท.ยังคงได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดียิ่งในการเสนอขายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่

โดยมีความต้องการจากนักลงทุนสูงมากกว่า 65,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.2 เท่าของมูลค่าการเสนอขาย ส่งผลให้ ปตท. เพิ่มหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Exercise Greenshoe) อีก 5,000 ล้านบาท จากมูลค่าการออกหุ้นกู้เดิม 15,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการเสนอขายทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อ ปตท. โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้

ประกอบด้วย หุ้นกู้จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 2 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี และ 25 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ที่ 1.21% 2.05% 2.84% 3.20% และ 3.74% ต่อปี ตามลำดับ มีนักลงทุนที่ให้ความสนใจจองซื้อครอบคลุมทุกประเภท อาทิ กองทุนภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทประกันชีวิต กลุ่มสหกรณ์ ธนาคารพาณิชย์ รวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่ (ไม่รวมถึงบุคคลธรรมดา) และมีกำหนดการออกหุ้นกู้ในวันที่2 กรกฎาคม 2563

“การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของ ปตท. แก่ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในครั้งนี้ เป็นจังหวะที่เหมาะสม หลังจากภาวะตลาดเริ่มกลับมาเอื้ออำนวย ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับนักลงทุนยังคงมองหาช่องทางการลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสถานะการเงินที่มั่นคง ทำให้หุ้นกู้ของ ปตท. ได้รับอัตราดอกเบี้ยและอายุหุ้นกู้ที่เหมาะสม

โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่มีอายุยาวที่สุด 25 ปี ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยเห็นหุ้นกู้ระยะยาวในตลาดมากนัก ซึ่งปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนดีมาก ดังนั้น การนำเสนอหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นที่มีความหลากหลายของทั้งอายุหุ้นกู้และผลตอบแทน จึงเป็นโอกาสของ ปตท. ในการบริหารจัดการต้นทุนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายอรรถพล กล่าว

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA (tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของสถานะการเงินของ ปตท.

สำหรับการจัดจำหน่ายครั้งนี้ มีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

Back to top button