RS บวก 3% รับกำไร Q2 ดีกว่าคาด ผบห.มั่นใจธุรกิจคอมเมิร์ซนิวไฮต่อ ฟากโบรกฯ เคาะเป้า 20 บ.

RS บวก 3% รับกำไร Q2 ดีกว่าคาด ผบห.มั่นใจธุรกิจคอมเมิร์ซนิวไฮต่อ ฟากโบรกฯ เคาะเป้า 20 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ล่าสุด ณ เวลา 10.31 น. อยู่ที่ 18.70 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 3.31% สูงสุดที่ 18.80 บาท ต่ำสุดที่ 18.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 88.42 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น RS ปรับตัวขึ้น หลังบริษัทรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/63 มีกำไรเพิ่ม 14% มาที่ 108.61 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 95.16 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกโต 44% มาที่ 295.10 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 205.32 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส  ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น RS ประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 20 บาท/หุ้น โดยประกาศกำไรไตรมาส 2/63 ดีกว่าที่คาด 14% โดยเพิ่มขึ้น 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากธุรกิจพาณิชย์ที่โตดีในช่วง WFH โดยมีการจัด RS Mall Mid-Year Super Sale และเป็นธุรกิจที่มี Margin สูง คาดกำไรปี 2563-2564 เพิ่มขึ้น 46% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ

ด้าน นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน RS เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2563 จะได้รับผลกระทบทั้งไตรมาสจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาจากปลายไตรมาสแรก แต่ อาร์เอส กรุ๊ป กลับสร้างผลงานโดดเด่น จากความสำเร็จในการใช้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce และการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้รวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ซในไตรมาส 2/63 สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมากถึง 586.2 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกว่า 17% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 108.6 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้ของธุรกิจคอมเมิร์ซ มาจากการขายสินค้าผ่าน RS Mall แพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าในหลากหลายช่องทาง ทั้งสินค้าของบริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ และสินค้าจากพันธมิตรผ่านช่องทางออนแอร์ทั้งช่อง 8 และช่องพันธมิตรผู้นำทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ วิทยุ และสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จของการขยายช่องทางการขาย ส่งผลให้ปัจจุบัน RS Mall มีฐานข้อมูลลูกค้า 1.4 ล้านราย

ดังนั้น บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการบริหารข้อมูลลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งการนำระบบ Predictive Dialing System (PDS) เข้ามาพัฒนาระบบเทเลเซลล์ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งดูแลสุขภาพ และโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดแคมเปญ “RS Mall Mid Year Super Sale” ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้รายได้ทั้งจากกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าเดิมเติบโตเพิ่มขึ้น

โดยโปรดักส์แชมป์เปี้ยนที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ เอส.โอ.เอ็ม. คอร์ดี้ ทิเบต แอนด์ ภูฏาน, เอส.โอ.เอ็ม. ไอ-แคร์ และ เอส.โอ.เอ็ม. ซีแมคซ์ ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าในกลุ่มดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบัน”

ด้าน นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS กล่าวว่า อาร์เอส กรุ๊ป มุ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Entertainmerce และเข้าสู่ธุรกิจคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกแพลตฟอร์ม ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และออนไลน์ ผ่าน RS Mall และ COOLanything โดยในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เน้นการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก ซึ่งประกอบไปด้วย

1) การพัฒนาช่องทางออนไลน์ให้เข้าถึงและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาแอพพลิเคชัน และเว็บไซต์ COOLISM ที่มีจำนวนผู้ฟังกว่า 2 ล้านรายต่อเดือน รวมถึงการพัฒนาและทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ RS Mall ที่มีผู้ใช้งานกว่า 4 แสนรายด้วย

2) วางแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ที่ผสานเข้าไปกับเนื้อหารายการ ผ่านทางช่อง 8 อย่างเต็มรูปแบบ

3) เพิ่มความหลากหลายของประเภทผลิตภัณฑ์ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทไลฟ์สตาร์ ที่เจาะเข้าสู่แมสมาร์เก็ต อาทิ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Functional RTD (Ready-to-drink) และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คิดค้นร่วมกับศิลปินดาราชื่อดัง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับ หรือเรียกว่า สตาร์ คอมเมิร์ซ

นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว อาร์เอส กรุ๊ป กำลังเร่งสปีดเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจคอมเมิร์ซแบบก้าวกระโดด โดยจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเปิดเผยความก้าวหน้าในด้านการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจในเครือตลอดช่วงครึ่งปีหลังอีกด้วย

ทั้งนี้อาร์เอส กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าพลังของสื่อ และการทำงานอย่างสร้างสรรค์ในคอนเซปต์ Storytelling Commerce ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญและจุดแข็งของบริษัทฯ จะสามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในด้านยอดขาย ทั้งในหมวดสินค้าที่มี Functional Benefits และ Emotional Value สูงได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ธุรกิจคอมเมิร์ซเติบโตทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง

Back to top button