ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง TQR ขายไอพีโอ 60 ล้านหุ้น เล็งเทรด mai ไตรมาสนี้

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "ที คิว อาร์" หรือ TQR ผู้ประกอบธุรกิจประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ ขายไอพีโอ 60 ล้านหุ้น เล็งเทรด mai ไตรมาสนี้ ระดมทุนขยายธุรกิจพัฒนาระบบไอที โดยมี "เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นางสาวจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ TQR ในวันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60.00 ล้านหุ้น โดยเป็นการเพิ่มทุนจาก 170.00 ล้านหุ้นเป็น 230.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.09% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 1 ของปี 2564

โดย TQR ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) โดยให้บริการจัดหาสัญญาประกันภัยต่ออย่างครบวงจร (Integrated Reinsurance Solution Provider) ตั้งแต่การให้คำปรึกษาแก่บริษัทประกันภัย (Cedant) เพื่อจัดหาสัญญาประกันภัยต่อที่เหมาะสมโดยบริษัทฯ จะทำหน้าที่พิจารณาองค์ประกอบของสัญญาประกันภัยต่อที่สำคัญ อาทิ คำเสนอขอเอาประกันภัยต่อ (offer)  ประเภทของงาน เงื่อนไขการเอาประกันภัยต่อ ข้อตกลงของสัญญาประกันภัยต่อและข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหาสัญญาประกันภัยต่อที่ดีที่สุดแก่คู่ค้าของ TQR ทั้งบริษัทประกันภัย(Cedant)  และบริษัทรับประกันภัยต่อ (Reinsurer)

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังร่วมวิเคราะห์และพัฒนาการประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับคู่ค้า ตลอดจน ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่จากต่างประเทศและนำมาประยุกต์ให้สอดคล้องกับธุรกิจประกันภัยของประเทศไทยและประสานงานให้คู่ค้าของบริษัทฯ สามารถตกลงทำสัญญาประกันภัยต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและลดความเสี่ยงทางธุรกิจของคู่ค้า ทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำประกันภัยต่อได้อย่างสมบูรณ์

ด้าน นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ (Operational Efficiency Improvement Platform) การลงทุนพัฒนาแบบจำลองทางการเงิน (Financial Model) สำหรับธุรกิจการประกันภัย รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 2560 – 2562  บริษัทมีรายได้รวม 104.96 ล้านบาท 153.75 ล้านบาท 132.49 ล้านบาท  ตามลำดับ โดยรายได้ในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 160.47  ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 57.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ จากกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) ส่วนกำไรสุทธิสำหรับปี 2560 – 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.62 ล้านบาท  32.88 ล้านบาท 44.04 ล้านบาทตามลำดับ โดยในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563  มีกำไรสุทธิ 68.62  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.54%  เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38.22  ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทในปี 2555

ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ มาจากรายได้หลักจากการให้บริการจัดหาสัญญาประกันภัยต่อ โดยบริษัทฯ จะได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบของค่านายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Brokerage Fee) จากบริษัทรับประกันภัยต่อ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 92.00% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทฯ

Back to top button