NOBLE รอรับปันผล

ผู้ถือหุ้น NOBLE ต้องยิ้มแฉ่ง! หลังมีการคาดการณ์มีว่าเงินปันผลงวดสุดท้ายปี 2563 จะออกมาสูงกว่าเดิม จากก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.31 บาท


คุณค่าบริษัท

ผู้ถือหุ้น บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ต้องยิ้มแฉ่ง! หลังมีการคาดการณ์มีว่าเงินปันผลงวดสุดท้ายปี 2563 จะออกมาสูงกว่าเดิม จากก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.31 บาท โดยข้อมูลล่าสุดจากบริษัทได้ประเมินว่ามีโอกาสจ่ายสูงไปถึงระดับ 0.46 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.4%

การที่บริษัทอาจมีการปรับเงินจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นนั้นเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่จะจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 25% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ ซึ่งดูแล้วบริษัทจะสามารถทำกำไรได้แข็งแกร่งสืบเนื่องจากปัจจัย 2 ประการเข้ามาเพิ่ม คือ ขายที่ดินเปล่าที่เมืองฟูราโน่ ประเทศญี่ปุ่นสำเร็จในไตรมาส 4/2563 มีรายได้ที่ประมาณ 210 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับกำไรที่ราว 70 ล้านบาท  และรายได้รวมทำได้ดีกว่าคาดอยู่ที่ 10.6 พันล้านบาท จากที่เราคาดไว้คือ 10.4 พันล้านบาท และด้วยอัตราการจ่าย (payout ratio) ที่ 60%

ผลดังกล่าวทำให้มีโอกาสที่จะจ่ายปันผลได้สูง!!!

อีกทั้งทาง บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส  คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/2563 เติบโตก้าวกระโดด เป็น 652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสก่อน สาเหตุที่เติบโตดีเทียบกับจากงวดเดียวกันของปีก่อน คือ รายได้รวมเพิ่ม 16% เป็น 3.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้การโอนคอนโดฯ ที่สูงขึ้น อีกทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ปรับลดลงเป็น 14.1% รวมทั้งกำไรพิเศษที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ ขายที่ดินเปล่าที่ 70 ล้านบาท

ขณะที่กำไรหลักตลอดปี 2563 คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดด ถึง 132% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องจากรายได้จากการขายทำได้สูงเป็น 10.4 พันล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่เป็นเพียง 6.1 พันล้านบาท และมีการปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 เพิ่ม 9% สะท้อนกำไรพิเศษที่เพิ่มขึ้นในงวดไตรมาส 4/2563 และรายได้ที่ทำได้ดีกว่าคาดตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

นอกจากนี้ ปิดการขายพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ Noble Remix สำเร็จ ในมูลค่าที่ราว 1 พันล้านบาท กับนักลงทุนที่เป็นบุคคล ไม่ได้เป็นการขายเข้ากอง REIT ตามที่เคยได้ตั้งเป้าหมายไว้ สืบเนื่องจากกอง REIT ที่เป็นธุรกิจค้าปลีกมีสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ยังไม่เหมาะสม ทั้งนี้นักลงทุนเมื่อซื้อสินทรัพย์ไปแล้วจะให้ NOBLE เช่ากลับ โดยนักลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนที่พอใจ ส่วน NOBLE ก็ยังจะมีรายได้ค่าเช่าต่อไป หากเมื่อรวมกับยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 2563 ที่จะมีการรับรู้รายได้ปีนี้ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท รวมเป็น 6 พันล้านบาท ก็ถือว่าจะเป็นสัดส่วนที่ 55% เทียบกับเป้ารายได้ปีนี้ที่ 11 พันล้านบาทแล้ว ส่วนรายได้ในส่วนที่เหลือก็จะมาจากการขายและโอนสต็อกที่สร้างเสร็จแล้วภายในปีนี้

ขณะเดียวกันรุกสู่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ขายหนี้เสีย NPL และสินทรัพย์ NPA บริษัทไปร่วมลงทุนในบริษัทย่อย SAWAD คือ SWP Asset Management (SWP) ทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดยเข้าไปถือหุ้น 20% จ่ายเงินลงทุน 300 ล้านบาท ให้กับ SAWAD เริ่มธุรกิจปี 2564 คาดจะไม่ได้รับผลขาดทุนแต่ได้กำไรตั้งแต่ปีแรก เพราะ SWP มีกำไรต่อปีราว 100-200 ล้านบาทอยู่แล้ว ตามสัดส่วนจะได้กำไรราว 20-40 ล้านบาท

สิ่งที่น่าสนใจคือ NOBLE ได้คาดหวังว่ากำไรของบริษัทร่วมทุนแห่งนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 400-500 ล้านบาท(ส่วนของ NOBLE 80-100 ล้านบาท) ในปี 2566 ที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ซึ่งได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว ก็จะทำให้เกิดประโยชน์คือ มีกำไรจากการถือหุ้น SWP ในอนาคต

สุดท้ายแล้วยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.62 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายธงชัย บุศราพันธ์ 274,686,021 หุ้น   20.06%
  2. NCROWNE PTE LTD. 274,624,812 หุ้น 20.05%
  3. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 125,796,000 หุ้น   9.19%
  4. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED 66,416,877 หุ้น 4.85%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 61,222,821 หุ้น     4.47%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ, ประธานคณะกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม
  2. นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม, รองประธานกรรมการ
  3. นายธีรพล วรนิธิพงศ์ กรรมการ
  4. นาย ซั่ว ถิง อู กรรมการ
  5. นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการ

Back to top button