KOOL ปี 63 พลิกขาดทุน 3.52 ลบ. เจอผลกระทบโควิด-สินค้ามาร์จิ้นต่ำ

KOOL ปี 63 พลิกขาดทุน 3.52 ลบ. เจอผลกระทบโควิด-สินค้ามาร์จิ้นต่ำ


บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2563 สิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานในงวดดังกล่าวพลิกขาดทุนเนื่องจากในช่วงเวลาหากเดือนแรกของปี 2563 ช่องทางธุรกิจค้าปลีก (Retail Channel) พบอุปสรรคสำคัญเนื่องจากห้างสรรพสินค้า (Moderntrade) ต่างปิดให้บริการภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) จึงทำให้รายได้ส่วนนี้ลดลงไป บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์โดยการเน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้สามารถดึงรายได้กลับขึ้นมาได้บางส่วน

อย่างไรก็ตามภาพรวมของช่องทางธุรกิจค้าปลีกมีรายได้ลดลงคิดเป็นอัตรา 14.51% เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี2563 รวมทั้งการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศในประเทศที่ไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มากนักทำให้รายได้ภาพรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันการส่งสินค้าออกจำหน่ายต่างประเทศในสัดส่วนที่สูงกว่าช่องทางอื่นนั้นทำให้กำไรขั้นต้นลดลง ดังนั้นผลการดำเนินงานสำหรับงวด 12 เดือนของปี2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทขาดทุนสุทธิ 3.52 ล้านบาท

ขณะที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 119,750,000 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 120,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 239,750,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 479,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 240,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.45 บาท ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญ ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) วันที่ 29 เมษายน 2564

อีกทั้งอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ จำนวนไม่เกิน 239,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25บาท มีรายละเอียดดังนี้ เพื่อเสนอขายให้แก่ SS เพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมด มูลค่า 59,400,000 บาท โดยราคาเสนอขายเท่ากับ ร้อยละ 90ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทฯ ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกันแต่ไม่เกิน 15 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทกำหนดราคาเสนอขาย ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการ แต่ทั้งนี้ราคาเสนอขายจะไม่ต่ำกว่า 0.45 บาทต่อหุ้น

และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CLU เพื่อเป็นการชำระค่าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ CLU มูลค่า 92,250,000 บาทโดยราคาเสนอขายเท่ากับ ร้อยละ 90ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทฯ ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกันแต่ไม่เกิน 15 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทกำหนดราคาเสนอขาย ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการ แต่ทั้งนี้ราคาเสนอขายจะไม่ต่ำกว่า 0.45 บาทต่อหุ้น

 

Back to top button