TSTH พุ่ง 11% สะท้อนราคาเหล็กเส้นปรับขึ้น คาดดันกำไรปี 63/64 ราว 579 ลบ.   

TSTH พุ่ง 11% ตามราคาเหล็กเส้นปรับขึ้น ความต้องการ “ใน-ต่างประเทศ” สูง  คาดดันกำไรปี 63/64 ราว  579 ลบ.    


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH ล่าสุด ณ เวลา 15:20น. อยู่ที่ 0.78 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 11.43% สูงสุดที่ 0.82 บาท ต่ำสุดที่ 0.68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 77.60 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเมื่อทางกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลว่าในเดือน ม.ค. 2564 ราคาเหล็กเส้น SD40 ขนาด 16 มม. ปรับเพิ่มขึ้นแรงเป็น 20,567 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสก่อน จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 4/2563 เท่ากับ 16,622 บาทต่อตัน จากการสอบถามเอเย่นต์ของ TSTH พบว่าราคาขายเหล็กเส้นขนาด SD-40T 16 มม. ต้นเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นเป็น 20,400 บาทต่อตัน เทียบกับเดือน ม.ค. 20,300 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยของ TSTH ในไตรมาสก่อนเท่ากับ 23% จากไตรมาสก่อน  ส่วนต้นทุนเศษเหล็กเฉลี่ยเดือน ม.ค. ก็ปรับขึ้นเป็น 12,200 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน การปรับเพิ่มขึ้นของราคาเหล็กได้แรงหนุนสำคัญจากจีนลดการส่งออกเหล็ก และความต้องการเหล็กที่สูงขึ้นในจีน และในไทย

นอกจากนั้นผู้บริหาร TSTH ประเมินปริมาณขายเหล็กปี 2563/2564 (เม.ย.63-มี.ค.64) เท่ากับ 1.29-1.3 ล้านตัน เติบโต 8% เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิม 1.22-1.23 ล้านตัน หลังจากความต้องการใช้เหล็กทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก ในช่วงปลายปีก่อนต่อเนื่องถึงต้นปี 2564  ดังนั้น ปริมาณขายในไตรมาส 4/63/64 (ม.ค.-มี.ค.64) คาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 363,000 ตัน (เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) คาดราคาขายเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 บาทต่อตัน (เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)  ในขณะที่ TSTH มีสต็อก ณ สิ้นเดือน ธ.ค. ประมาณ 2.7 พันล้านบาท หรือ เท่ากับยอดขาย 1.5 เดือน ดังนั้นเบื้องต้นคาดกำไรไตรมาส 4/63/64 จะสูงถึง 300-400 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 854% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 256% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

ประกอบกับผู้บริหาร TSTH ประเมินความต้องการเหล็กในตลาดปี 2564 จะเติบโตมากกว่า 10% เพิ่มเป็น 18-19 ล้านตัน  แรงหนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล จะเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนยอดขายของ TSTH ปี 2564/65 เติบโตต่อ โดยเฉพาะสถานการณ์เหล็กจากจีนที่เข้ามาตีตลาดในไทยลดลงมาก จากความต้องการที่สูงในจีน หนุนราคาปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งราคาเหล็กเส้นในจีนปรับขึ้นแรงและมีราคาใกล้เคียงกับราคาในไทย ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นคาดกำไรปี 2563/64 เท่ากับ 579 ล้านบาท พุ่งขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรเพียง 48 ล้านบาท และ ปี 2564/65 เท่ากับ 632 ล้านบาท หรือเติบโต 9%

Back to top button