TASCO คงเป้ายอดขายปีนี้ 1.25 ล้านตัน คาดผลงาน Q4 โต รับไฮซีซั่น

TASCO กวาดรายได้ไตรมาส 2/64 กว่า 7.7 พันลบ. คงเป้ายอดขายปีนี้ 1.25 ล้านตัน  เชื่อรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณปี 2565 ได้เร็ว หนุนธุรกิจเข้าไฮซีซั่นไตรมาส 4 เผยอยู่ระหว่างเจรจารับเงินสินไหมทดแทนเหตุเพลิงไหม้งวดสุดท้าย คาดบุ๊กทันทีไตรมาส 3 เดินหน้ารุกตลาดเวียดนาม จีน ออสเตรเลีย และมาเลเซีย


นางกัญญา เรืองประทีปแสง รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยข้อมูลภาพรวมของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 17 ส.ค.2564 ว่า งวดไตรมาส 2/2564 บริษัทมีรายได้รวม 7,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2563 ที่มี 6,542 ล้านบาท โดยเปป็นรายได้จากการขายและบริการธุรกิจยางมะตอย 7,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากไตรมาส 2/2563 ตามราคาขายยางมะตอยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจก่อสร้างเป็นจำนวน 672 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 868 ล้านบาท ลดลง 49.5% จากไตรมาส 2/2563 ที่มี 1,719 ล้านบาท

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2564 มีมติอนุมัตจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2564 เป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 ส.ค.2564 และกำหนดจ่ายเงินปันลในวันที่ 9 ก.ย.2564

ด้าน นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TASCO เปิดเผยว่า ในปัจจุบันปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพียงพอสำหรับการผลิตยางมะตอยจนถึงไตรมาส 1/2565 โดยในปี 2564 บริษัทยังคงตั้งเป้าขายยางมะตอย 1.25 ล้านตัน

โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายสำหรับการรับเงินค่าสินไหมทดแทนงวดสุดท้าย จากบริษัทประกันภัยเพื่อชดเชยกรณีเพลิงไหม้ถังเก็บน้ำมันโรงกลั่นในประเทศมาเลเซียเมื่อปี 62 คาดว่าจะได้รับเงินงวดสุดท้ายในช่วงไตรมาส 3/2564 และจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษได้ทันที โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับเงินเข้ามาแล้วทั้งสิ้น 767 ล้านบาท

สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ตามปกติแล้วจะเป็นช่วงที่บริษัททำยอดขายได้ลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.2564 บริษัทมียอดขายดีกว่าช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งคาดว่ามาจากการที่บริษัทเข้าลงทุนในธุรกิจก่อสร้างถนน ส่งผลให้มียอดขายเข้ามาเพิ่มขึ้น และมาร์เกตแชร์ก็จะเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

อีกทั้งคาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดสรรงบประมาณปี 2565 ได้เร็ว โดยคาดว่าการซ่อม สร้างถนน จะเกิดได้ในช่วงเดือน ต.ค.64 จึงเชื่อว่าประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนได้ในไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็นช่วงของไฮซีซั่น ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศยังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์การดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเน้นเลือกตลาดที่บริษัทมีโรงงาน หรือ มีคลังอยู่ในประเทศต่างๆ และเลือกขายประเทศที่ให้ราคาดี จะมุ่งเน้นไปที่ประเทศเวียดนาม จีน ออสเตรเลีย และมาเลเซีย เป็นต้น

Back to top button