“เมย์แบงก์” ประเมินกำไร JMT ปี 65-66 โตเฉลี่ย 53% ลุ้นขึ้น SET50 กลางปีหน้า

“บล.เมย์แบงก์ฯ” ชี้ JMT แกร่ง! ประเมินเพิ่มทุน RO หนุนเงินทุนเพิ่มหมื่นลบ. ลด D/E เหลือ 0.5 เท่า คาดประมูลหนี้เสียเพิ่ม-ยอดเก็บหนี้สูงขึ้น มองกำไรปี 65-66 โตเฉลี่ย 53% มีโอกาสขึ้น SET50 กลางปีหน้า


บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ( 2 ก.ย.2564) เกี่ยวกับหุ้นบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ว่า การประกาศเพิ่มทุน RO จำนวน 241 ล้านหุ้น ราคา 41.50 บาท/หุ้น จะทำให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านบาท พร้อมลด D/E จาก 1.1 เท่า เหลือ 0.5 เท่าทันที นอกเหนือจากต้นทุนการเงินลดลงราว 300 ล้านบาท หรือบริษัทจะมีพร้อมรองรับหนี้ด้อยคุณภาพภายหลังหมดมาตรการพักหนี้เดือนก.ย. จะเห็นการประมูลขายหนี้ของสถาบันการเงินในช่วงครึ่งหลังปี 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้อิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ณ ไตรมาส 2/2564 มีสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SML) ไม่น้อยกว่า 1.4 ล้านล้านบาทหรือคิดเป็นมูลค่าระดับแสนล้านบาท คาดถูกทยอยออกขายนับแสนล้านบาทใน 2-3 ปีข้างหน้า (10-15% ของมูลหนี้) โอกาสจึงมีมากพอที่ JMT จะคว้าไว้และเข้าซื้อไม่ต่อกว่าปีละ 1.15 หมื่นล้านบาท/ปี

โดยตามสถิติของบริษัทในปี 2549-2563 สามารถเก็บหนี้จนถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 3.5-4 ปี หรือคิดเป็นผลตอบแทนราว 25% ดังนั้นจึงเชื่อว่าการซื้อหนี้ระดับหมื่นล้านบาท จะทำให้ยอดเก็บเงินสดเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2-2.5 พันล้านบาท/ปี จากปีนี้คาดไว้ที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบจากปีก่อน

ขณะที่อัตรากำไรจะดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด ยอดเก็บเงินสดต่อจำนวนพนักงานติดตามหนี้จะสูงขึ้นจากความเชี่ยวชาญและการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นมาโดยตลอด จึงปรับประมาณการกำไรปี 2565-2566 ขึ้น 18-27% เติบโตเฉลี่ย 53% ต่อปี โดยคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท เติบโต 67% เมื่อเทียบจากปีก่อน และกำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เติบโต 47% เมื่อเทียบจากปีก่อน

ทั้งนี้จากการประเมินกำไรสุทธิปี 2565 เติบโต 67% เมื่อเทียบจากปีก่อน จะสามารถชดเชย Dilution ราว 18% จากการเพิ่มทุนได้ และรักษาการเติบโตของ EPS เฉลี่ย (CAGR) 43% ในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงได้ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2565 เท่ากับ 58 บาท/หุ้น โดยอิง P/E ที่ 32.5 เท่า ปัจจัยบวกหนุนระยะสั้นคือแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2564 ถึงไตรมาส 4/2564 คิดแข็งแรงกกว่าตลาดที่สามารถเติบโตได้ 5-10% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากกองหนี้ที่ตัดต้นทุนหมดเพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมทั้งปี 2564 ยังเติบโต 37% เมื่อเทียบจากปีก่อย ขณะที่ระยะกล่าวด้วยมูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้น มีโอกาสที่บริษัทจะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ราวกลางปีหน้า

Back to top button