FSSIA ชี้เป้า “EA-NEX” ผู้เล่นหลักกลุ่มอีวี-แบตเตอรี่ การันตีกำไร 65-67 โตแกร่ง

FSSIA ชี้เป้า "EA-NEX" มองกำไรปี 65-67 โตแกร่ง เนื่องจากเป็นสองผู้เล่นหลักในไทยด้านแบตเตอรี่ และตลาด EV ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการเต็มรูปแบบ  


นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (FSSIA) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการมาตรการ และธุรกิจ EV ในประเทศไทย โดยเห็นว่าผู้ผลิตรถอย่าง Great Wall Motors (Thailand) (GWM) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำผลิตรถ EV ของประเทศจีนได้ประกาศทำการปรับลดราคาสามรุ่นย่อยของโมเดล ORA Good Cat ลงราว 160,500-160,780 บาทต่อคัน (150,000 บาทจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ และ 10,500-10,780 บาทจากภาษีสรรพสารมิตร) เพื่อจับเทรนด์ของมาตรการภาครัฐในการสนับสนุนรถ EV ในวงเงินตั้งแต่ 75,000-150,000 บาทต่อคัน รวมถึงการปรับลดภาษีนำเข้า และภาษีสรรพสารมิตรด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ FSSIA ระบุว่า ภายใต้สัญญาการค้าขายระหว่างไทยกับจีน การนำเข้ารถ EV จากจีนจึงไม่มีภาษีนำเข้า แต่มีผลกับรถ 4 ล้อเท่านั้น ซึ่งไม่รวม รถบัส รถบรรทุก และเรือ ซึ่งยังมีภาษีนำเข้าที่ 40% อยู่ นอกจากนั้นแล้ว มาตรการช่วยเหลือที่เพิ่งอนุมัติไปใช้ได้กับรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ และจักรยานยนต์เท่านั้น โดยมีการหั่นภาษีนำเข้า และภาษีสรรพสามิต ซึ่งทาง FSSIA คาดว่าจะช่วยเสริมการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มผู้ผลิต EV ในประเทศ

ขณะที่รถ e-bus และ e-truck ยังมีภาษีนำเข้า 40% โดยมองว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมเทรนด์ EV ในไทย โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลจากจีน และยุโรป ซึ่งคาดว่าภาษีนำเข้ารถยุโรปจะลดลงจาก 80% เป็น 40% และ 40% เป็น 0% สำหรับรถจากเกาหลีใต้ ด้านรถจากญี่ปุ่นจะลดลงจาก 20% เป็น 0% และจากจีนคงเดิมที่ 0%

อย่างไรก็ดี FSSIA ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA และบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เนื่องจากเป็นสองผู้เล่นหลักในไทยด้านแบตเตอรี่ และตลาด EV โดยคาดว่าราคาหุ้นในปีนี้จะ Outperform ผลักดันโดยโมเมนตัมการเติบโตของกำไรสุทธิตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2567 เนื่องจากมีการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการเต็มรูปแบบ และยังออกตัวรายแรกในตลาดทำให้มีข้อได้เปรียบกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ เปิดโอกาสให้สามารถเจาะตลาดการขาย และช่องทางการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ e-bus และ e-truck สาธารณะ นอกจากนั้นแล้วจะยังได้รับผลประโยชน์จากเทรนด์ EV ในประเทศไทยที่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น

ดังนั้นทาง FSSIA จึงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น EA โดยกำหนดราคาเป้าหมายไว้ 122 บาท และแนะนำ “ซื้อ” หุ้น NEX โดยกำหนดราคาเป้าหมายไว้ 26 บาท

Back to top button