ลุ้น TRUE ปิดจ็อบควบ DTAC ปลายปีนี้ หนุนงบปี 66-67 พลิกกำไร อัพเป้าใหม่ 6.28 บ.

“บล.กสิกรไทย” มองดีลควบรวม TRUE-DTAC จะสำเร็จช่วงปลายนี้ ซึ่งจะหนุนกำไรจากการดำเนินงานหลักปี 66-67 ไว้ที่ 4.1 พันลบ. และ 9.08 พันลบ. พร้อมปรับราคาเป้าหมายใหม่ 6.28 บ.


บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (1 มิ.ย.65) ว่า กรณี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) TRUE ขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF โดยจะเหลือถือที่สัดส่วน 20.56% จากก่อนหน้าถือสัดส่วน 23.38% โดย TRUE มีข้อจำกัดห้ามขายหน่วยลงทุน DIF อยู่ที่ 8% แต่จะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ ซึ่ง บล.กสิกร คาดว่า TRUE จะได้รับเงินทุนจำนวน 3.5 พันล้านบาท จากการขายในครั้งนี้และจะบันทึกเป็นรายได้ทางบัญชีจำนวน 1.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากยังไม่มีข้อชี้แจงจาก TRUE เรื่องสาเหตุของการตัดจำหน่ายหน่วยลงทุนใน DIF ทำให้ทาง บล.กสิกร เกิดความกังวลว่าบริษัทจะประสบปัญหาด้านสภาพคล่องที่ต่ำ อย่างไรก็ตามหัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ TRUE กล่าวกับ บล.กสิกร ว่าตลาดยังมีความต้องการของหุ้นกู้ในประเทศของ TRUE อยู่ในระดับดี และเงินทุนจากการจำหน่าย DIF นั้นยังดูน้อยไปที่จะนำมาช่วยเสริมงบดุลให้ดีขึ้น

พร้อมกันนี้ บล.กสิกร ปรับประมาณการขาดทุนจากการดำเนินงานหลักของ TRUE ในปี 65 จากเดิม 301 ล้านบาท เป็น 4.7 พันล้านบาท จากผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ที่ต่ำกว่าคาด รวมถึงการเติบโตของรายได้หลักที่ต่ำกว่าคาดด้วยเช่นกันจากการบริโภคที่ลดลง และการแข่งขันด้านราคาที่สูง อย่างไรก็ตาม บล.กสิกร คงประมาณการกำไรจากการดำเนินงานหลักปี 66-67 ไว้ที่ 4.1 พันล้านบาท และ 9.08 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งรวมความเป็นไปได้ของการทำซินเนอร์ยี่จากการควบรวมกับ DTAC ไว้แล้ว

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ TRUE มีความมั่นใจต่อการควบรวมกับ DTAC ว่าจะสามารถผ่านไปได้ แม้อาจจะช้ากว่ากำหนดเดิมก็ตาม และเชื่อว่าจะมีการเยียวยาที่ดีจากทางกสทช. ซึ่งทาง บล.กสิกรก็ยังคงมุมมองว่าการควบรวมจะสำเร็จ 100% โดยเลื่อนระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากกสทช. และดีลจะสมบูรณ์จากเดิม พ.ค.-มิ.ย. และ ก.ย. ไปเป็น ส.ค.-ก.ย. และ ธ.ค.

ด้านราคาหุ้น TRUE อยู่ในระดับต่ำในช่วงที่ผ่านมา โดยปรับตัวลดลง 22.8% จากจุดพีคเมื่อ 18 ก.พ. หลังความมั่นใจของตลาดในการควบรวมเริ่มลดลง โดยคาดว่าราคาหุ้นจะยังถูกกดดันอยู่ในระยะสั้นจาก 1) ศาลอาจสั่งให้พักการควบรวมไว้ก่อน 2) sentiment เชิงลบของตลาดต่อการทำประชาพิจารณ์ที่กำลังจะมีขึ้น และ 3) คดีความที่อาจตามมา

อย่างไรก็ตาม บล.กสิกร ยังคงมุมมอง Outperform จาก 1) ความคืบหน้าการพิจารณาการควบรวม 2) การเปิดเผยของมูลค่าซินเนอร์ยี่ที่เสนอกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 66 จากเดิม 5.64 บาท เป็น 6.28 บาท และให้ราคาเหมาะสมในขณะที่ยังไม่มีการควบรวมไว้ที่ 3.95 บาท  (WACC 9.7%, อัตราการเติบโตระยะยาว 2%)

นอกจากนั้นแล้ว บล.กสิกรยังระบุว่าหาก 1) การควบรวมไม่สำเร็จ 2) การเยียวยาจากกสทช.ที่ไม่ดี และ 3) การแข่งขันที่ยังสูงหลังการควบรวม จะส่งผลเป็นความเสี่ยงดาวน์ไซด์ต่อ TRUE ได้

Back to top button