CHIC ลงเทรดวันนี้! ลุ้นวิ่งทะลุเป้า 1 บ. ชูพื้นฐานแกร่ง กำไรโตก้าวกระโดด

ไอพีโอน้องใหม่ CHIC ลงสนามเทรดวันนี้ โบรกชูเป้า 1 บาท มองรายได้ฟื้นตัวหลัง “โควิด” เริ่มคลี่คลาย คาดกำไรปีนี้โต 2 เท่าตัวแตะ 58 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.ค.65) บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นวันแรก

โดย CHIC เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.47% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO และกำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 31.69 เท่า และคิดเป็นมูลค่ารวมที่เสนอขาย 324 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการขยายสาขาแห่งใหม่ จำนวน 60 ล้านบาท ภายในปี 2567 เพื่อชำระคืนหนี้กู้ยืม จำนวน 117 ล้านบาท ภายในปี 2565 เพื่อปรับปรุงพื้นที่ภายในสาขาและขยายพื้นที่ให้เช่าจำนวน 38 ล้านบาทภายในปี 2565 และเป็นเงินทุนหหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ จำนวน 93.74 ล้านบาท ภายในปี 2565-2567

ด้านนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CHIC” ในวันที่ 27 ก.ค.65

โดย CHIC ประกอบธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนอย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ (Stand Alone) ภายใต้สินค้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์หลัก (House Brand) ของบริษัทฯ ได้แก่ “ชิค รีพับบลิค (CHIC Republic)” “รีน่า เฮย์ (Rina Hey)” และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “แอชลีย์ (Ashley)” และสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ผ่านช่องทางหน้าร้านค้าของบริษัทฯ และช่องทางออนไลน์ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 6 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาภายในประเทศจำนวน 5 สาขา ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม สาขาพัทยา สาขาบางนา สาขาราชพฤกษ์ สาขารามอินทรา และสาขาต่างประเทศจำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขากัมพูชา

นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์พร้อมติดตั้งสำหรับงานโครงการภายในประเทศ โดยให้บริการกับโครงการห้องชุด คอนโดมิเนียม พร้อมทั้งให้บริการออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร รวมไปถึงการบริการพื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้าภายในสาขา เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าเพิ่มขึ้น

โดย CHIC มีทุนชำระแล้ว 680 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,000 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 360 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 270 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อยไม่เกิน 54 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยไม่เกิน 36 ล้านหุ้น ตั้งแต่วันที่ 18-21 กรกฎาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 324 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,224 ล้านบาท

ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 43.06 เท่า คำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลังของบริษัท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิที่ 0.0209 บาทต่อหุ้น (หลังการเสนอขาย IPO) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญร่วม (Co-Lead Underwriters)

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการของ CHIC เปิดเผยว่า CHIC มุ่งเน้นการขยายสาขาบนทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ เป็นศูนย์กลางของชุมชนเมืองขนาดใหญ่ และให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (Offline to Online และ Online to Offline) เพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจ และเตรียมก้าวสู่การเป็น Digital Transformation เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและรองรับความต้องการในอนาคต สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปขยายสาขา ปรับปรุงพื้นที่บางสาขาในประเทศเพื่อขยายพื้นที่ให้เช่าและสร้างแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recurring Income) รวมทั้งชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้  บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา website ของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มเติมการขายแบบ E-Commerce รองรับฐานลูกค้าที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภท ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ และตามกฎหมาย

ทั้งนี้ หลัง IPO กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CHIC จะเป็นกลุ่มครอบครัวปัทมสัตยาสนธิ  ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ซึ่งถือหุ้นรวม 73.53% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CHIC เป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ครบวงจรในรูปแบบ Stand alone ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวทั้งตัวอาคารและสินค้าที่มีสไตล์ในเทรนด์เฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ Modtrad style (Modern + Tradition style) โดยเน้นลูกค้าที่ต้องการความแตกต่าง ซึ่งทางบริษัทวางตำแหน่งการตลาดของสินค้าไว้อย่างชัดเจน

โดยมีทั้งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และสินค้าที่ออกแบบเองภายใต้แบรนด์ของตนเอง จุดแข็งของบริษัทที่เหนือกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ คือการพัฒนาเปลี่ยนดีไซน์และการจัดวางทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ทันสมัยและตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งออกแบบโดยทีมงานคุณภาพ และเพื่อให้ลูกค้าเดินชมสินค้าอย่างเพลิดเพลินและแปลกตาที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน จึงทำให้เป็นข้อได้เปรียบของบริษัทในเรื่องของการเปรียบเทียบราคา เนื่องจากสินค้านั้นยากต่อการเทียบราคากับคู่แข่ง

ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 65/66 อยู่ที่ 58 ล้านบาท (โต 203% จากปีก่อน) และ 67 ล้านบาท (โต 14%  จากปีก่อน) จาก 1) คาดว่ารายได้จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีหลังจากผลกระทบของ covid-19 และเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าเนื่องจากเดินหน้ารุกตลาดใหม่เพื่อเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น และ 2)gross margin ปรับตัวดีขึ้นและกลับมาอยู่ที่ระดับ 54% เพิ่มขึ้นจาก 53% ของปี 64 ซึ่งเป็นระดับปกติก่อนจะโดนผลกระทบของโควิด

ดังนั้น ประเมินราคาเป้าหมายปี 65 ของ CHIC ที่ 1 บาท พร้อมมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยมีการเติบโตกำไรสุทธิปี 64-66 เฉลี่ยที่ 89% ต่อปี

Back to top button