“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! ตามดาวโจนส์ จับตาเงินเฟ้อออสซี่-ผลประชุมเฟด

“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! ตามดาวโจนส์ นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อไตรมาส 2 ของออสเตรเลีย และการแถลงมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบ โดยถูกกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อไตรมาส 2/65 ของออสเตรเลีย รวมถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,575.16 จุด ลดลง 80.05 จุด หรือ -0.29%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,684.48 จุด ลดลง 221.4 จุด หรือ -1.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,271.78 จุด ลดลง 5.66 จุด หรือ -0.17%

โดยบรรยากาศการซื้อขายยังคงถูกบดบังจากปัจจัยลบ หลังบริษัทวอลมาร์ทคาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะลดลงราว 8%-9% และกำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 65 จะลดลงราว 11%-13% จากเดิมที่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และกำไรต่อหุ้นในปี 65 จะลดลงเพียง 1% โดยวอลมาร์ทระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อกำลังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า และหันไปใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร

ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลีย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายผู้บริโภค ไตรมาส 2/65 ของออสเตรเลีย จะเพิ่มขึ้น 6.2% จากระดับ 5.1% ในไตรมาสแรก ขณะที่ ANZ  Research คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.6% เมื่อเทียบรายปี

เรามองว่า การคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้นอยู่ในระดับที่สมดุลตามปัจัยจัยเสี่ยงต่าง ๆ เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี CPI ของสหรัฐและอังกฤษเองก็เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ในเดือนก.ค.” ANZ Research ระบุ

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 65 และปี 66 โดยเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่รุนแรงกว่าคาด รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ของ IMF เผยคาดการณ์เศรษฐกิจโลกว่า จะขยายตัว 3.2% ในปี 65 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.9% ในปี 2566 โดยปรับลดลง 0.4% และ 0.7% ตามลำดับจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.

Back to top button