“รัฐบาล” เดินหน้าขับเคลื่อนระบบราง ยกระดับการเดินทาง-ขนส่ง 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยโครงข่ายรถไฟทางไกล รองรับการขนส่งจากถนนสู่ระบบราง และจากทางเดี่ยวสู่ทางคู่ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี เตรียมเปิดให้บริการ 5 เส้นทางภายในปี 65


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเร่งพัฒนาขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศ ตามนโยบายเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นระบบ ยกระดับการเดินทางให้สะดวกรวดเร็ว และคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งอีกด้วย

ทั้งนี้ โครงข่ายรถไฟทางไกลรองรับการขนส่งจากถนนสู่ระบบราง และจากทางเดี่ยวสู่ทางคู่ ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง ระยะทาง 985 กิโลเมตร มีความคืบหน้าเป็นอย่างดีและอีก 5 เส้นทาง ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2565 ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร, ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กิโลเมตร, ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร, ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวม 76 กิโลเมตร และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทางรวม 167 กิโลเมตร

สำหรับโครงข่ายรถไฟฟ้าทางไกลดังกล่าวโดยเมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว คาดการณ์ว่าจะช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ในการเดินทาง รวมถึงการขนส่งสินค้า อีกทั้งยังเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมพื้นฐานด้านอื่น ๆ ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายอนุชา กล่าวอีกว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ตามนโยบายรัฐบาลนี้ ถือเป็นการยกระดับการเดินทางที่สำคัญ และเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสต์ติก ลดระยะเวลาในการเดินทางได้อย่างชัดเจน

Back to top button