CCP ผนึก WHALE แตกไลน์คลังสินค้าให้เช่า Free Zone ปักเป้าปี 68 รายได้ 100 ล้าน

CCP แตกไลน์ธุรกิจใหม่ ผนึกกำลัง WHALE ลงทุน 400 ลบ. ตั้งบริษัทร่วมทุน “ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น” เดินหน้าสยายปีกคลังสินค้าให้เช่าใน Free Zone คาดเริ่มรับรู้รายได้ปี 4/66 ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 100 ล้าน


นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงทุนกับ บริษัท ปลาวาฬ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) ผู้นำด้านบริการโลจิสติกส์ ลำดับต้นๆ ในโซนแหลมฉบัง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จัดตั้ง บริษัท ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น จำกัด มูลค่าลงทุนรวม 400 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น CCP ถือหุ้น 60% และบริษัท ปลาวาฬ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (WHALE LOGISTICS GROUP) ถือหุ้น 40%

ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ จัดตั้งมาเพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการคลังสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัยในเขตปลอดอากร (Free Zone) จากการมองเห็นโอกาสการเติบโตของแนวโน้มความต้องการใช้คลังสินค้าในเขตปลอดภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพยังมีไม่เพียงพอ ประกอบกับการผลักดันของภาครัฐในโซน EEC ที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ผนวกกับปัจจัยเสริมของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศอาเซียนมากขึ้น

ขณะเดียวกัน CCP มีความพร้อมของที่ดินที่นำมาพัฒนามีความพร้อมอย่างมาก ผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านงานคอนกรีตและรูปแบบต่างๆ สำหรับงานก่อสร้างคลังสินค้า และนิคมอุตสาหกรรม ทำให้สามารถช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างคลังสินค้าได้ และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างที่รวดเร็ว ซึ่งจะเป็นจุดเด่นให้และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับบริษัท

การลงทุนคลังสินค้าในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส ใกล้ที่ดินนิคมแหลมฉบัง ได้แก่ เฟส 1 มีพื้นที่คลังสินค้า 2,800 ตารางเมตร และเฟส 2 พื้นที่ 28,800 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้างปลายปี 65 และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4/66 ตั้งเป้ารายได้ในปี 68 ของชาลี ท็อป โลจิสติกส์ ไว้ที่ 100 ล้านบาท

ด้านนายธีรจิต สอนแจ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปลาวาฬ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับ CCP ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกขั้นของทั้ง 2 บริษัทที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกัน ผสานความเป็นมืออาชีพที่ช่วยสร้างศักยภาพการเติบโตให้แก่ทั้ง 2 บริษัทอย่างสูงสุด

ในอนาคต ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ มีโอกาสที่จะขยายธุรกิจและเพิ่มพื้นที่ให้บริการในรูปแบบร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ (Franchising) เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจใน EEC และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งจะเห็นการเติบโตในอนาคตได้อย่างแน่นอน

เราร่วมกันเพื่อนำความเชี่ยวชาญของปลาวาฟฯ และ CCP มาสร้างขีดความสามารถทางธุรกิจ แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรม แต่เราต้องการเป็นลำดับต้นๆในอุตสาหกรรมที่ลูกค้าเชื่อมั่น และไว้วางใจในความเป็น Professional ของเรา ที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ” นายธีรจิตร กล่าว

Back to top button