Pi คัด 11 หุ้น “แลกการ์ด” ชู RATCH-KBANK เด่นสุด!

“บล.พาย” แนะลงทุนหุ้น “แลกการ์ด” หุ้นเด่นกลุ่มแบงก์ BBL, KBANK, SCB, TTB ส่วนค้าปลีก BJC, HMPRO ฟากสื่อสาร ADVANC, INTUCH และโรงไฟฟ้า BGRIM, GPSC, RATCH


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi คาดการณ์สัปดาห์นี้เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนจะเริ่มกลับมาใกล้เคียงภาวะปกติ โดยปัจจัยในประเทศได้แก่เงินเฟ้อไทยประจำเดือน ธ.ค. ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี Bloomberg คาดไว้ที่ 5.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นรวมถึงทิศทางของค่าเงินบาทให้คงการแข็งค่าต่อไป

สำหรับประเด็นในส่วนต่างประเทศจะเน้นที่ (1) ในวันพุธกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐฯจากสถาบัน ISM Bloomberg คาดการณ์ที่ 48.6 หากออกมา เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็เท่ากับว่าลดลงจากเดือนก่อนและลดลงติดต่อกันแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ย่ำแย่ ขณะที่ในวันเดียวกันจะมีการรายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯ Bloomberg คาดไว้ที่ 10.1 ล้านตำแหน่ง

(3) วันศุกร์กับภาคแรงงานสหรัฐฯ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯไว้ที่ 2 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.7% ส่วนปรากฎการณ์ January Effect แม้สถิติบอกไว้ว่าในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนตลาดหุ้นเดือน ม.ค. จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 18 ปีแต่อีก 12 ปีให้ผลตอบแทนติดลบหรือคิดเป็นความน่าจะเป็น 60% ก็ถือว่าค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาลงปะจะพบว่าหากปีไหนที่ ธ.ค. ปรับขึ้นมาแล้ว โอกาสที่ ม.ค. จะปรับขึ้นต่อเริ่มน้อยลง และหากพิจารณาลงไปในปีที่ ธ.ค ปรับขึ้นและ ม.ค. ปรับขึ้นได้แก่ช่วง (Dec 92, Jan 93, Dec 95, Jan 96, Dec 01, Jan 02, Dec 04, Jan 05, Dec 11, Jan 12, Dec 12, Jan 13, Dec 16, Jan 17, Dec 17, Jan 18, Dec 20, Jan 21 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่าตลาดหุ้นมักอยู่โซนล่างและเป็นช่วงที่ Valuation ไม่แพงซึ่งปี 22 ในเดือน ธ.ค. SET ปรับขึ้นมา 2% และ Valuation ปัจจุบันไม่ถูกเท่าใดนักจึงคาดหวัง January Effect มิได้มากในปี 66

ส่วนเช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei ยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุดปีใหม่ ประเมินกรอบทั้งสัปดาห์ที่ 1,650 – 1,675 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเป็นเพียงแค่การ Trading เนื่องจากตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปเยอะและระดับ Valuation ที่ไม่ถูก เน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อย อาทิ กลุ่มแบงก์ ได้แก่ BBL, KBANK, SCB, TTB ขณะที่ค้าปลีก ได้แก่ BJC, HMPRO นอกจากนี้สื่อสาร ได้แก่ ADVANC, INTUCH และกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ BGRIM, GPSC, RATCH

สำหรับหุ้นเด่น RATCH แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 55.00 บาท โดยคาดกำไรไตรมาส 4/65 ลดลงจากไตรมาสก่อน จากอุปสงค์ในประเทศที่ลดลงจากปัจจัยตามฤดูกาลและค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้น ส่วนการเติบโตในเชิงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จะได้แรงหนุนจากกำลังการผลิต 190 MWe ที่เพิ่มเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/64-ไตรมาส 3/65

รวมทั้ง KBANK แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 4/65 จะโตดีต่อเนื่องจากงวดเดียวกันของปีก่อน จาก 1) การซื้อซ้ำ MOGU MOGU ใน 4 ตลาดหลัก (ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และฝรั่งเศส) (2) ยอดขายในประเทศที่ฟื้นตัว และ 3) การขยายจุดขายในยุโรป

Back to top button