PTT โกยรายได้ 3.4 ล้านลบ. หนุนกำไรปี 65 แตะ 9.1 หมื่นล้าน แจกปันผล 0.70 บ.

PTT โกยรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท รับรู้จากกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีก และกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น หนุนกำไรปี 65 ทะลุ 9.1 หมื่นล้าน แจกปันผล 0.70 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 2 มี.ค.66 จ่าย 28 เม.ย.66


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลการดำเนินงานปี 65 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65

โดยในปี 2565 ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 3,367,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1,108,385 ล้านบาท หรือร้อยละ 49.1 จากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยรายได้ของกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นกลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีก และกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น เป็นผลจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายโดยรวมที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกตามกล่าวช้างต้น กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีรายได้เพิ่มขึ้นตามราคา ขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ตามราคา Pool Gas และผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิง แม้ว่าปริมาณขายก๊าชฯ ลดลงจากปริมาณชฯ ในอ่าวที่ผลิตได้ลดลงจากการเปลี่ยนผ่านผู้ดำเนินการในสัมปทานใหม่ของโครงการ G1/61 ดังกล่าวข้างต้

โดย EBITDA ในปี 2565 มีจำนวน 491,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.332 ล้านบาท ร้อยละ 14.8 โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามราคาขายเฉลี่ย และปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มธุรกิจถ่านหินที่มีราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างไรก็ดีกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานที่ลดลงจากต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้นมากตามราคา Pool Gas

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุกิจปิโตรเคมีและการกลั่นลดลงโดยหลักจากธุรกิจปิโตรเคมี ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบปรับตัวลดลงในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ดีธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานดีขึ้นจาก Market GRM ที่เพิ่มขึ้นจาก 2.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2564 เป็น 10.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2565 จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่ากำไรสต้อกน้ำมันลดลง โดยกำไรสต๊อกน้ำมันของกลุ่ม ปตท. ลดลงประมาณ 42.000 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

โดยในปี 2565 ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายมีจำนวน 167,330 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20,540 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.0 โดยหลักจาก PTTEP จากโครงการ G1/61 เริ่มการผลิตและโครงการมาเลเซียมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น รวมถึง GC จากการเข้าซื้อ Allnexในเดือน ธ.ค. 2564 รวมถึง PTTGM จากการลงทุนในธุรกิจยาในปี เดือน เม.ย. 2565

ขณะที่ในปี 2565 มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 5,849 ล้านบาท ลดลง 3,161 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 35.1 ส่วนใหญ่มาจากผลการดำเนินงานของการร่วมค้าในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ปรับลดลง ตามกล่าวข้างต้น

นอกจากนี้ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น 42,956 ล้านบาท จากขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 31,958 ล้านบาท ในปี 2564 เป็นขาดทุน 74,914 ล้านบาท ในปี 2565 โดยหลักมาจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำามันของกลุ่มปิโตรเคมีและการกลั่นจากส่วนต่าง ราคาผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจริงสูงกว่าราคาที่ทำประกันความเสี่ยงไว้

อย่างไรก็ก็ตามบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 12,021 ล้านบาท จากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 6,469 ล้านบาท ในปี 2564 เป็นกำไรจำนวน 5,552 ล้านบาท ในปี 2565 โดยหลักมาจากขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของเงินกู้ยืมสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่ลดลง ตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน (ปี 2565เงินบาทปิดอ่อนค่า 1.14 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ ปี 2564 เงินบาทปิดอ่อนค่า 3.38 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ)

ส่วนต้นทุนทางการเงินปี 2565 มีจำนวน 37,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,928 ล้านบาทจาก ปี 2564 โดยหลักจากการเงินกู้ยืม ที่เพิ่มขึ้น ของ GC PTTEP และ ปตท. นอกจากนี้ใน 2565 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 10,200 ล้านบาท ขณะที่ใน 2564 มีผลขาดทุนประมาณ 6,900 ล้านบาท (รายละเอียดตามภาคผนวก)

ด้านภาษีเงินได้ปี2565 จำนวน 90,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,872 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.8โดยหลักมาจากผลการด าเนินงาน ที่เพิ่มขึ้นของ PTTEP และ TOP ขณะที่ GC และ ปตท. มีภาษีเงินได้ลดลงตามผลประกอบการที่ลดลง

ทั้งนี้จากที่กล่าวข้างต้นส่งผลให้ปี 2565 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 91,175 ล้านบาท ลดลง17,188 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15.9จากปี 2564 ที่มีก าไรสุทธิ จำนวน 108,363 ล้านบาท

ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2565 อีกในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 19,994 ล้านบาท โดยเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2565 จะจ่ายจากกําไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรในส่วนของกําไรสุทธิที่ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 20 โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 2 มี.ค. 2566 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 28 เม.ย. 2566

Back to top button