เฟ้น 7 หุ้นเด่น มี.ค. กำไรฟื้นตัว  

ส่อง 7 หุ้นเด่น น่าลงทุนเดือนมี.ค. กำไรงวดไตรมาส 4/65 ผ่านจุดเลวร้าย และฟื้นตัวต่อในช่วงไตรมาส 1/66 IVL, BGRIM, BLA, JMT หุ้นอิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง CRC, CBG, AP


บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุน ระบุว่า เดือน มี.ค.66 ปัจจัยภายนอกที่นักลงทุนยังให้น้ำหนัก คือ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (เดือน ก.พ.66) ที่จะประกาศในวันที่ 14 มี.ค.66 รวมถึงแนวทางการรับมือเงินเฟ้อของ Fed หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด และยังมีความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรในการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินในการประชุม ณ วันที่ 29 มี.ค.66 ปัจจุบันตลาดคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้อีก 0.25% มาอยู่ที่ 5%

ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยเดือนมี.ค.ยังคงเผชิญกับ 3 กับดัก คือ 1) เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าที่คาดโดย GDP Growth งวดไตรมาส 4/65 ของไทยขยายตัวเพียง 1.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 7.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 5.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ GDP ไทยยังหดตัว 1.5% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้มูลค่า GDP ไทยพลิกกลับมาต่ำกว่าช่วงก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งหากติดลบอีก 1 ไตรมาสจะเข้าสู่ภาวะ Technical Recession

2) ตลาดหุ้นไทยรายงานงบไตรมาส 4/65 ออกมา 538 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน Market Cap. 92% ลดลง 35% จากไตรมาสก่อน และ 45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเป็นการลดลงแรงจาก 13 Sector โดยเฉพาะ Sector ที่ขาดทุน คือ PETRO, STEEL, ICT, CONS อีกทั้งกำไรยังต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดถึง 40% นำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลงต่อเนื่องในช่วงเดือนนี้

3) ล่าสุดฝ่ายวิจัย ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลงจาก 1.27 ล้านล้านบาท เป็น 1.12 ล้านล้านบาท และ EPS ปี 66 ลดลงจาก 99.2 บาท/หุ้น เหลือ 91.8 บาท/หุ้น เมื่อคูณกับ P/E 17.54 เท่า (ที่คำนวณจาก MEYG 4.2% ภายใต้ดอกเบี้ยนโยบาย 1.5%) ได้ดัชนีเป้าหมายอยู่ที่ 1,610 จุด ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็นเชื้อไฟทำให้ต่างชาติพลิกกลับมาขาย สุทธิหุ้นไทยหนักในเดือน ก.พ.66 ถึง 1.2 พันล้านเหรียญ หรือ 4.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิสูงสุดในภูมิภาค และยังเป็นเดือนที่ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 หรือช่วงเกิด COVID-19 แรกๆ

อย่างไรก็ตามในเดือน มี.ค.66 เชื่อว่าฟันด์โฟลว์มีโอกาสชะลอการไหลออก หากมีประเด็นบวกเข้ามาเสริม เช่น ความมีเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง, กนง. ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือเลื่อนกำหนดเวลาขึ้นดอกเบี้ย ในวันที่ 29 มี.ค.66 ออกไป รวมถึง Downside ของ SET Index ตามประมาณการใหม่มีจำกัด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค. ภายใต้ Valuation ตลาดหุ้นไทย ที่เริ่มตึงมากขึ้น รวมถึงฟันด์โฟลว์ชะลอการไหลเข้า การเลือกหุ้นลงทุนจำเป็นจะต้องพิถีพิถันมากขึ้น แนะนำสะสมหุ้นกำไรงวดไตรมาส 4/65 ผ่านจุดเลวร้าย (Bottom Out) และฟื้นตัวต่อในช่วงไตรมาส 1/66 อย่าง IVL, BGRIM, BLA, JMT รวมถึงหุ้นอิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง CRC, CBG, AP 

Back to top button