คัด 10 หุ้นราคาต่ำบุ๊ก พ่วง “ปันผล” สูงเกิน 4%

เปิดรายชื่อ 10 หุ้นราคาต่ำบุ๊ก พ่วงด้วยพีอีต่ำและปันผลสูง ชู BANPU ยีลด์ทะลุ 11% ส่วน BCP น่าลงทุน โบรกมองราคาหลังควบรวม ESSO น่าจะสูงกว่าบุ๊กแวลู่ที่ 45.85 บาท


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการคัดเลือกหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกข้อมูล ณ วันที่ 12 เม.ย.66 อิงจากหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำกว่า 10 เท่า และค่า P/BV ไม่เกิน 1 เท่า ประกอบกับยังมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่ดี ในระดับ 4-10% มาเพื่อประกอบการพิจารณาลงทุน ตามตารางดังนี้

โดยหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำสุดได้แก่ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่มี P/E เพียง 2.09 เท่า และราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 13.94 บาท แถมยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดที่ระดับ 11.10%

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP หลังมีประเด็นการควบรวมกับ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO

โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อกิจการของบางจากกับเอสโซ่รวมกันแล้ว จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ บางจาก และผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ตามตัวเลขทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น และเป็นระดับที่ “สูงกว่า” ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งจะสัมพันธ์กับราคาหุ้นที่จะปรับตัวสูงขึ้น เพราะฉะนั้นในอนาคตราคาหุ้นบางจากไม่ควรเทรดต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 45.85 บาท

ขณะที่ นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญและการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดใน ESSO ซึ่งเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท

สำหรับกระบวนการต่อจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าดีลดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในปีนี้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะหนุนให้ผลประกอบการตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น หลังได้โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือรวมเป็น 294,000 ล้านบาร์เรล รวมถึงสถานีบริการน้ำมันก็จะเพิ่มขึ้น โดยปั๊มเอสโซ่ปัจจุบันมีอยู่ 700-800 สาขา และปั๊มบางจากมีอยู่ 1,300 สาขา ทำให้จะรวมเป็น 2,100 สาขา

ส่วนราคาหุ้นสุดท้ายสำหรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้น ยังต้องรองบการเงินของ ESSO ปิดก่อน คาดว่าจะทราบได้ในช่วงไตรมาส 2/66 ขณะที่เงื่อนไขที่ต้องบรรลุก่อนเข้าซื้อ (Condition Precedent) เหลือขั้นตอนสุดท้าย คือ การได้รับความเห็นชอบตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้า โดยตามกระบวนการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จะใช้เวลาในการพิจารณาอีก 105 วัน หรือราวก.ค.66 ก็น่าจะเห็นความชัดเจนได้ โดยคาดราคาซื้อขายหุ้นจะอยู่ในช่วง 8-9 บาท ตามที่ได้แจ้งให้ทราบไปก่อนหน้า

อนึ่ง BCP ได้ทำประมาณการราคาซื้อขายหุ้นอ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยเป็นการทั่วไปของ ESSO และประมาณการข้อมูลสินค้าคงเหลือไฮโดรคาร์บอน และสินค้าคงเหลือของกิจการนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและสารละลายเคมีภัณฑ์ที่เป็นกิจการไม่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 มูลค่ารวมของหุ้นที่จะซื้อขายเท่ากับ 20,956 ล้านบาท หรือ 9.18 บาทต่อหุ้น จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดในเอสโซ่ คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้ ทำให้มั่นใจว่ากระบวนการซื้อขายหุ้นทั้งหมดจะจบได้ในสิ้นปีนี้

Back to top button