ขนทัพ 44 บจ. กวาดกำไร Q1 เกินเท่าตัว ชู 6 หุ้นไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง

เผยโฉม 44 หุ้นกวาดกำไร Q1/66 โตกระฉูดเกิน 100% ด้าน TIPCO ไม่เกรงใจโตทะลัก 51 เท่าตัว ขณะที่ WHAUP-SUN-MOSHI-SISB-BEM-ICHI โบรกคาดไตรมาส 2/66 เติบโตต่อเนื่องรวมถึงทั้งปี 66


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจงบการเงินบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทสไทย (SET) งวดประจำไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยคัดเฉพาะบริษัทมีกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดเกิน 100% หรือกว่า 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ สะท้อนว่าบริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจได้เป็นอย่างดีเยี่ยม

สำหรับบริษัทประกาศงบการเงินไตรมาส 1/2566 สามารถทำกำไรสุทธิโตเกินกว่า 100% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิมีจำนวน 44 บริษัทได้แก่ TIPCO, B, MFEC, TAE, TCOAT, PAP, JDF, STPI, SIRI, TASCO, ASAP, TNL,  FTE, ALLA, NC, SCAP, ASEFA, GPSC, Q-CON, WHAUP, SUN, SPI, MOSHI, MAJOR, PYLON, AKR, TKN, APCS, SISB, KBS, SA, UNIQ, KAMART, TEAMG, BEM, BJCHI, BH, NCAP, MSC, ICHI, APCO, CSR, PRM และ NFC ตามลำดับ

ขณะที่บริษัทสามารถทำกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนเกิน 10 เท่าตัวกลายเป็นหุ้นขนาดเล็กของกลุ่มอย่าง บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 231.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,166.11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4.40 ล้านบาท  โดยรับรู้จากธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้จากการขาย 462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากในไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ สามารถทายอดขายเพิ่มขึ้นทั้งส่วนที่เป็นน้ำผลไม้ 100% และน้ำแร่ อีกทั้งยังมีการปรับราคาขายขึ้น พร้อมกับรับรู้กำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 442% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,206.02% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 0.43 ล้านบาท  เนื่องจากมีกําไรจากการแบ่งส่วนกําไรจากบริษัทร่วม ซึ่งได้แก่บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จํากัด และ บริษัท ซีพีเอส ชิปปิ้ง แอนด์ โลจีสติกส์ จํากัด จํานวนรวม 25.25 ล้านบาท

บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 645.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,142.82% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 51.97 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้รายได้จากการดำเนินโครงการต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของรายได้จากการบำรุงรักษาระบบงาน (System Maintenance Service) จากโครงการขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงมีกำไรจากการโอนกิจการทั้งหมดของบริษัทย่อยจำนวน 649.6 ล้านบาท จากจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทวัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด (VDD) ซึ่งธุรกรรมโอนกิจการทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ทั้งนี้ กำไรจากการโอนกิจการทั้งหมดดังกล่าวคิดเป็นก าไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้น 94.21% ใน VDD จานวน 612 ล้านบาท

นอกจากนั้นใน 44 บริษัทที่สามารถโกยกำไรสุทธิได้ก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนแล้ว พบว่ามีหลายบริษัทที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2566 และตลอดทั้งปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยจากผลประเมินของนักวิเคราะห์ ได้แก่  WHAUP, SUN, MOSHI, SISB, BEM, ICHI

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ บล. กรุงศรี ระบุว่า คาดกำไรจะฟื้นตัวชัดในไตรมาส 2 ปี 2566 เนื่องจาก Gheco-One กลับมาเปิดดำเนินการตามปกติ และ COD โครงการ solar rooftop จำนวน 20 เมกะวัตต์ ทั้งกำไรจาก SPP จะขึ้นอยู่ที่กับส่วนต่างของราคาขายไฟฟ้า กับต้นทุนก๊าซธรรมชาติ

ขณะเดียวกันประเมินการกำไรธุรกิจหลักปีนี้จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากงวดเดียวของปีก่อน อีกทั้งยังมีอัพไซด์ได้แก่ ส่วนของอัพไซด์ 0.40-0.70 บาทต่อหุ้น จากโครงการ solar farm ขนาด 145 เมกะวัตต์ทำให้ PPA สะสมเพิ่มขึ้นเป็น 824 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสร้างรายได้ในปี 2572-2573 เป็นต้นไป รวมทั้งอาจจะได้กำไร 160 ล้านบาท จาก Duong River ขอปรับค่าน้ำย้อนหลังถึงปี 2562 และการลงทุนในโครงการน้ำและไฟฟ้าอย่างน้อยหนึ่งโครงการในเวียดนาม ดังนั้นยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5 บาท

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ทางฝ่ายนักวิเคราะห์บล.ดาโอ ระบุ แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ปี 2566 คาดเติบโตต่อเนื่อง ทั้งเมื่อช่วงเดียวของปีก่อน และไตรมาสก่อนจาก 1) รายได้ที่ขยายตัวต่อเนื่องโดยในประเทศมีแผนออกสินค้า RTE ใหม่อีก 2 -3 SKUs ในเดือน พ.ค. ยอดขายแตะ 1 แสนชิ้นต่อวันจาก 8 หมื่นชิ้นต่อวัน เตรียมขยาย Mini factory เพื่อเพิ่มกาลังการผลิตเป็น 1.2-1.5 แสนชิ้นต่อวัน และการท่องเที่ยวฟื้นตัวทาให้ HoReCa ขยายตัว ด้านรายได้ต่างประเทศขยายตัวจากการขึ้นราคา โดยมีแผนจะขึ้นราคา +1% ทุกๆเดือน, pent up demand และขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยในวันที่ 23-27 พ.ค. Thai Fex คาดว่า SUN จะได้รับออเดอร์เพิ่มและสามารถทยอยส่งมอบได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ปี 2566 และ 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวจาก utilization rate ที่ดี อีกทั้งต้นทุนกระป๋องลดลงต่อเนื่องอีก 3-4%

ขณะที่เครื่องจักรใหม่ Hydrolock เพิ่ม capacity ที่ 30% เตรียม COD ต้นมินายน 2566 โดยมีงบลงทุนที่ 125 ล้านบาท เป็นเครื่องใช้ในการฆ่าเชื้อที่ใช้ระยะเวลาสั้นลงและพลังงานลดลง คาดเป็น upside ต่อรายได้ เนื่องจากปัจจุบันสินค้าที่ผลิตไม่เพียงพอจาหน่าย เนื่องจากมีคาสั่งซื้อเป็นจานวนมาก

สำหรับปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ขึ้นอีก 33% โดยประเมินกำไรสุทธิที่ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน จาก 1) รายได้รวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน โดยรายได้ในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน จากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวและออกสินค้าใหม่ อีกทั้งลูกค้ากลุ่ม HoReCa กลับมาฟื้นตัวและรายได้ต่างประเทศโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน จากการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มและการปรับราคาขึ้นและ 2) GPM ขยายตัวจากต้นทุน packaging และพลังงานที่ปรับตัวลดลง ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.50 บาท

บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุคาดจะเห็นกำไรเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2566 และครึ่งปีหลัง จากการเติบโตยอดขายสาขาเดิม แผนการขยายสาขาที่คาดจะเป็นไปเป้าหมายที่ 20 สาขาต่อปี และคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวขึ้น economies of scale การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปีนี้สร้างสถิติใหม่ได้ 2) ปัจจุบัน MOSHI ซื้อขายอยู่ที่ PER 44 เท่าปี 2566 ซึ่งคิดเป็น PEG 1.3 เท่าจากคาดกำไรสุทธิปี 2566 เติบโตที่ 34%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 52.25 บาท

บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ  SISB ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ ระบุ คาดแนวโน้มกำไรสุทธิที่เหลือของปีนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำนิวไฮต่อเนื่องทุกไตรมาส จากในไตรมาส 2 ปี 2566 มีจำนวนนักเรียนสมัครแล้ว 100 คน เป็นสัดส่วนคนไทย:ต่างชาติ 50:50 และในไตรมาส 3 ปี 2566 เป็นช่วงเปิดเทอมขึ้นการศึกษาใหม่คาดนักเรียนเพิ่มขึ้นจาก 4 สาขาเดิม และการเปิดสาขาใหม่จากนนทบุรีและระยองที่ยืนยันการสมัครเรียนแล้วกว่า 250 คน

พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้น 9% มาอยู่ที่ 713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนปัจจัยบวกคือ 1) จานวนนักเรียนลาออกน้อยลงมี retention rate ดีขึ้น 2) นโยบายของประเทศจีนที่ลดความสำคัญของภาษาอังกฤษส่งผลต่อนักเรียนจีนมาต่อประเทศไทยมากขึ้น การเลื่อนระดับชั้นเรียนค่าเทอมเพิ่มขึ้น 5-7% ในทุกการขึ้นระดับชั้นทุก 2 ปี คาดจำนวนนักเรียนปี 2566 เพิ่มขึ้น 750 คน  จากสาขาเดิม 4 สาขาและการเปิดใหม่ 2 สาขา ที่นนทบุรีคาด 200 คน และระยองคาด 100 คน ดังนั้นยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายอยู่ที่ 39.00 บาท

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ทางฝ่ายนักวิเคราะห์บล. ดาโอ ระบุ คงประมาณการ

กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน สำหรับไตรมาส 2 ปี 2566 เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิจะโตดีต่อเนื่องเมื่อช่วงเดียวของปีก่อนและไตรมาสก่อน และมีโอกาสแตะอย่างน้อย 900 ล้านบาท เป็นไปตามการฟื้นตัวของภาคการเดินทางและการท่องเที่ยว การกลับมาเปิดภาคเรียนของสถาบันการศึกษา และมีอานิสงส์เงินปันผลจาก TTW และ CKP รวมราว 337 ล้านบาท ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท

บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ บล. ทิสโก้ ระบุ แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่องจากเข้าสู่ฤดูร้อน และการรับรู้รายได้สินค้าใหม่และการรับจ้างผลิต OEM ที่คาดเพิ่มขึ้น ยังคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2566-2567 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 17% ซึ่งจาก 1) ธุรกิจเครื่องดื่ม RTD tea และ เย็นๆ เพิ่มขึ้นจากการออกสินค้าใหม่รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิตที่มีลูกค้าเพิ่มขึ้นรับรู้รายได้เต็มปีรวมลูกค้าประมาณ 6 ราย 2) ธุรกิจ non-tea ได้แก่เครื่องดื่มน้ำผสมวิตามิน ผสมสาร CBD และผสมโซดา CSD เพิ่มขึ้นจากสินค้าใหม่รับรู้เต็มปี 3) คาดการส่งออกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10% จากการทาการตลาดในกลุ่ม CLMV คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่ออัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยปีละ 11% ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 14.50 บาท

Back to top button