“เกียรตินาคินภัทร” มองบวก WHA-AMATA เด่น! รับ “ไชน่าพลัสวัน” กระตุ้นต่างชาติลงทุน

“บล.เกียรตินาคินภัทร” มองบวกต่อภาคอุตสาหกรรม รับ “ไชน่าพลัสวัน” เป็นตัวกระตุ้นลงทุนต่างประเทศ มั่นใจโตต่อเนื่อง 3 ปี (66-68) หลังยอดขาย EV พุ่ง โดยยังคงเชียร์ “ซื้อ” WHA-AMATA เป็นผู้ดำเนินกิจการ IE เจ้าใหญ่


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเมินเกี่ยวกับ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA โตต่อเนื่อง 3 ปี หลังยอดขาย EV ประเทศจีนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ ระบุว่าจากการเยี่ยมชม AMATA ซิตี้ ระยอง, WHA ISIE4, WHA ระยอง 36, EEC, EV OEM และห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย ทำให้นักวิเคราะห์ของเกียรตินาคินภัทรมีมุมมองเชิงบวกต่อภาคนิคมอุตสาหกรรม (IE) โดย “ไชน่าพลัสวัน” หรือ จีนบวกหนึ่ง จะเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากผู้พัฒนา IE คาดหวังวัฏจักรขาขึ้นภายใน 3 ปี ในระหว่าง ปี 2566-2568 โดยนักวิเคราะห์ยังคงแนะนำซื้อ WHA และ AMATA ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการ IE เจ้าใหญ่ ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า WHA จะซื้อขายที่ค่า PER ปี 2567 ที่ 16.2 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว 21 เท่า และ AMATA จะมีค่า PER ที่ล่าช้าที่ 13.2 เท่า เมื่อเทียบกับ PER เฉลี่ย 14 เท่า

โดยในระหว่างการเลือกตั้งในไตรมาส 2/2566 มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศที่รายงานต่อ BOI เพิ่มขึ้น 141% ปีต่อปี คิดเป็น 1.49 แสนล้านบาท และการได้รับอนุมัติโตขึ้น 15% ปีต่อปี คิดเป็น 9.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยจีนมีส่วนร่วมในโครงการที่ได้รับอนุมัติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 19% ในไตรมาส 1/2566 เป็น 25% ในปีไตรมาส 2/2566 ตามด้วยญี่ปุ่น 16% ในไตรมาส 1/2566 และในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 24% เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า อัตรากำไรการใช้รถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในไทย อยู่ที่ 12.8% ในเดือนกรกฎาคม และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า OEM รายใหม่จำนวนมากจากจีนที่ได้ประกาศการลงทุนด้านการผลิตเพิ่มในไทย

ทั้งนี้ภาคเอกชนมีความมั่นใจมากขึ้น หลังนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ภาคธุรกิจคาดหวังว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะส่งเสริมนโยบายที่เป็นมิตรต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และหวังว่ารัฐบาลใหม่จะผลักดันความสามารถในการแข่งขันของไทยในอาเซียน เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้าและภาคส่วนนวัตกรรมอื่นๆ เงินอุดหนุนและแรงจูงใจจากรัฐบาลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (ผู้ซื้อ, OEM, ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนรถยนต์) จะเป็นของจำเป็นอีกอย่างน้อยสามปี ในขณะที่การเติบโตใหม่จากอุตสาหกรรมอื่นๆ ยังคงจำเป็นในการรักษาเป้าหมายการลงทุนของไทยในระยะยาว

สำหรับยอดขายที่ดิน IE ใหม่ของ WHA และ AMATA ในปี 2566 มีแนวโน้มจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในครึ่งแรกของปี 2566 AMATA มียอดขายที่ดิน 682 ไร่ เมื่อเทียบกับยอดขายเกือบ 693 ไร่ของทั้งปี 2565 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 1,200 ไร่ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันใกล้ระดับสูงสุดล่าสุดที่ 1,203 ไร่ เมื่อปี 2556

ส่วน WHA ได้เพิ่มเป้าหมายการขายที่ดินปี 2566 จาก 1,750 ไร่ เป็น 2,500 ไร่ หลังจากขายที่ดินในครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 1,048 ไร่ แตะ 60% ของเป้าหมายเก่าและท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2566 คาดว่ายอดขายที่ดินของ WHA จะอยู่ที่ 800 ไร่ในไตรมาส 3/2566 ซึ่งหมายความว่าจะบรรลุเป้าหมายใหม่ปี 2566 ถึง 74% สำหรับ 9 เดือนแรก

เมื่อพิจารณาถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและอุปทานที่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อุปทานลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว WHA และ AMATA ได้เพิ่มงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินในปี 2566 ขึ้น 60-70% เพื่อรักษาปริมาณที่ดินในมือ WHA สามารถขึ้นราคาที่ดินได้สองครั้งในเดือนมกราคมและมิถุนายน ส่งผลให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า AMATA จะตามมาด้วยการปรับขึ้นราคาในปี 2567 การเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินถือเป็นอัพไซด์ของอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567

Back to top button