ONEO เปิดโมเดล 4 ธุรกิจ ดันรายได้โต หวังขึ้นแท่นผู้นำ “โรงแรม-บริการ”

ONEO เปิดโมเดล 4 ธุรกิจสร้างรายได้ประจำแข็งแกร่งพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน โชว์ศักยภาพองค์กรประกาศเป้าหมายขึ้นสู่ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโรงแรมและการบริการ


นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้พัฒนาและดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ และอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าที่สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง (Recurring Income Business) ในประเทศไทย โดยเป็นบริษัทเรือธง (Flagship Company) ในธุรกิจดังกล่าวของกลุ่ม บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI โดย ONEO ดำเนินธุรกิจครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ซึ่งรวมถึงโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 2. กลุ่มธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน 3.กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และ 4. ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงการให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่มธุรกิจของ ONEO และการบริหารจัดการโปรแกรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน

ทั้งนี้ ONEO ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ (Vision) เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริการ ด้วยความมุ่งมั่นและสร้างสรรค์ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่เติบโตอย่างยั่งยืน ต่อผู้ลงทุน ควบคู่กับการดูแลพนักงาน พันธมิตร และรับผิดชอบต่อสังคม’ โดย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ONEO มีโครงการที่พัฒนาเสร็จหรือเริ่มดำเนินการแล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ประกอบด้วย

1) โครงการประเภทโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ จำนวน 7 โครงการ มีห้องพักเปิดดำเนินการรวม 1,579 ห้อง ประกอบด้วย โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง, สเตย์บริดจ์ สวีท กรุงเทพ ทองหล่อ, ไอบิส ภูเก็ต กะตะ, ไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง, ไอบิส หัวหิน, สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท ทาวเวอร์ 1, เวลเนส สเตย์ แอนด์ โฮเทล สุขุมวิท 107 อาคารเอ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหรือแผนการพัฒนาอีก 12 โครงการ มีห้องพักรวมประมาณ 4,343 ห้อง

2) โครงการประเภทพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน มีพื้นที่ค้าปลีกเปิดดำเนินการแล้วจำนวน 1 โครงการ มีพื้นที่เช่าสุทธิรวม 2,053 ตารางเมตร ได้แก่ โครงการพอร์โทเบลโล มอลล์ ศรีราชา และอยู่ระหว่างการพัฒนาหรือแผนการพัฒนาอีก 4 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 16,720 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 2 แห่ง โดยมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 59,869 ตารางเมตร

3) ร้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 5 ร้าน อาทิ Gin Kitchen, Origami, Naori ฯลฯ และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 4 ร้าน และ 4) ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่ม ONEO จำนวน 12 โครงการ และการบริหารจัดการโปรแกรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการแฮมป์ตัน ดีลักซ์ โอเชียน ศรีราชา, แฮมป์ตัน สวีทส์ เทพารักษ์, แฮมป์ตัน เน็กซ์ ทู เอ็มโพเรียม, แฮมป์ตัน สวีทส์ พญาไท, แฮมป์ตัน  ทองหล่อ, นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง และแฮมป์ตัน สวีทส์ ศรีราชา โดยในส่วนของโปรแกรมแฮมป์ตันอยู่ระหว่างรอดำเนินการอีก 6 โครงการ

ทั้งนี้ โครงการอสังหาริมทรัพย์ ของ ONEO มีความหลากหลาย มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้วยรูปแบบและโครงการที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถสร้างรายได้ประจำที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวมถึงเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ของ ONEO กระจายอยู่ในทำเลสำคัญทั่วประเทศไทย อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC อาทิ ชลบุรี ระยอง ซึ่งเป็นทำเลที่มีความต้องการที่พักสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมบริเวณใกล้เคียง ONEO จึงได้รับประโยชน์จากทำเลที่ตั้ง ส่งผลให้มีลูกค้าที่พักอาศัยทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

สำหรับ ONEO มีศักยภาพพร้อมสร้างการเติบโต เนื่องจากมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาและรอเปิดดำเนินการอย่างชัดเจน และที่ผ่านมา ONEO สามารถผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งประเภทโครงการใหม่ที่เกิดจากการพัฒนาเองและการร่วมพัฒนากับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เช่น บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด, Ci:Z Investment Limited Liability Partnership, บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุน หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

รวมถึงการเข้าซื้อโครงการจากผู้พัฒนาอื่นๆ นอกจากนี้ ONEO ยังได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์กับกลุ่ม ORI โดยแต่ละฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของโครงการของอีกฝ่าย เพื่อส่งเสริมศักยภาพโครงการซึ่งกันและเติบโตไปด้วยกัน

สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประเภทพื้นที่ค้าปลีก ONEO มุ่งเน้นการพัฒนาในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของจำนวนประชากรสูงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่และชาวต่างชาติ ผ่านรูปแบบค้าปลีกท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์จนถึงคอมมูนิตี้มอลล์  ส่วนการพัฒนาอาคารสำนักงาน ONEO จะมุ่งเน้นไปพื้นที่ที่มีอุปทานส่วนเกินจำนวนมาก และทำเลที่การเดินทางสะดวกสบาย เช่น แนวรถไฟฟ้าหรือในเขตพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ (CBD) และธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะเปิดดำเนินการอยู่ภายในโครงการของ ONEO และกลุ่ม ORI

“ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป คาดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้กลับมาแตะระดับก่อนหน้าสถานการณ์โควิด-19 ได้ ONEO จึงเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งการพัฒนาโครงการเองและมองหาบริษัทพันธมิตรที่มีที่ดินในทำเลที่เหมาะสมกับการพัฒนาโครงการเพื่อสามารถส่งเสริมการเติบโตของ ONEO ผ่านการพัฒนาโครงการใหม่ร่วมกัน เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มโรงแรมและการบริการ” นายปิติ กล่าว

Back to top button