WTI ปิดพุ่ง 2.33 เหรียญ หลังสงคราม “อิสราเอล” ยืดเยื้อ หวั่นกระทบอุปทานน้ำมัน

น้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 85.54 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.33 เหรียญ วิตกสงครามอิสราเอลและกาซาขยายวงกว้าง หลังสหรัฐโจมตีฐานซีเรีย อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (27 ต.ค. 66) จากความวิตกที่ว่าความตึงเครียดในอิสราเอลและกาซาอาจลุกลามเป็นความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก

สำหรับสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. 66 พุ่งขึ้น 2.33 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 85.54 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 2.9% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 2.55 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 90.48 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.8% ในรอบสัปดาห์นี้

โดยทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดวันศุกร์ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 66

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ลุกลามออกไป หลังจากที่เครื่องบินรบของสหรัฐได้ทำการโจมตีฐานที่มั่นและคลังเก็บอาวุธในซีเรียของกลุ่มนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลได้เริ่มส่งรถถังและกำลังทหารรุกเข้าไปทำการโจมตีในวงจำกัดภายในฉนวนกาซา ก่อนที่จะเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินอย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้า

ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณน้ำมัน แต่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะการส่งออกที่ชะงักงันจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงอิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่และเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส

Back to top button