“โกลเบล็ก” แนะลงทุน 7 หุ้นเด่น รับเทศกาลตรุษจีน มอง SET ก.พ. แกว่งไซด์เวย์

GBS ประเมินหุ้นไทย Sideway ออกด้านข้างในกรอบดัชนี 1,350-1,400 จุด จับตาการเผยตัวเลขส่งออกของไทยและการประกาศงบการเงินปี 66 ของบริษัทจดทะเบียน พร้อมแนะนำลงทุนในหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์ตอนรับเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ GFPT-TFG-CPF-SPA-AOT-ERW-CENTEL


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.พ. มีแนวโน้มแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกด้านข้าง จากปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวเหนือระดับ 4% อีกครั้ง ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด

ขณะที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีอยู่ อาทิ สหรัฐได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรีย เพื่อตอบโต้กองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน หลังจากการโจมตีด้วยโดรนได้สังหารทหารสหรัฐ 3 นายที่ฐานทัพในจอร์แดน  อย่างไรก็ดีทาง IMF ได้ออกมาเตือนว่าสถานการณ์ตึงเครียดอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่กลุ่มติดอาวุธโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงจะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้น และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก

อย่างไรก็ดีปัจจัยลบในประเทศที่มาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ส่งผลให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการศึกษาประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเติบโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามาจาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยเชิงวัฏจักรระยะสั้นพบว่าระยะหลังเศรษฐกิจโลกขยายตัวจากภาคบริการเป็นหลัก ขณะที่ภาคการผลิตชะลอตัว และประเด็นปัญหาในเรื่องภาระหนี้ครัวเรือนสูง ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เผยแพร่ข้อมูลสรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-2 ก.พ. 67 ที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มนักลงทุนที่ขายสุทธิ ได้แก่ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 26,696.47 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 136.25 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,107.92 ล้านบาท มีเพียงกลุ่มนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 29,940.64 ล้านบาท

ทั้งนี้ในส่วนของปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ วันนี้ (6 ก.พ.67) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) ได้ออกแถลงสถานการณ์การส่งออก ณ วันที่ 7 ก.พ. 67 กำหนดให้มีการประชุม กนง. ครั้งที่ 1/2567 และประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และการทยอยประกาศงบการเงินปี 2566 ของบริษัทจดทะเบียนจนถึงวันที่ 29 ก.พ. 67 เป็นวันสุดท้าย ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันที่ 7 ก.พ. 67 ที่สหรัฐอเมริกามีรายงานดุลการค้าในเดือน ธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT, บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL

ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ได้ประเมินทิศทางการลงทุนในทองคำ ในเดือน ก.พ. ว่าในเดือนนี้แนะนำนักลงทุนจับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานและอัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค ของสหรัฐฯ หากเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มอ่อนตัวอาจเป็นเหตุให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค.

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำกำลังสร้างฐานครั้งใหญ่ อีกทั้งเป็นช่วง High Season จากเทศกาลตรุษจีน เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 2,020-2,075 ดอลลาร์/ออนซ์ คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้

Back to top button