“กรภัทร” แนะเก็บหุ้น “ค้าปลีก-ไฟแนนซ์” เข้าพอร์ต

“กรภัทร วรเชษฐ์” ปรับตัวขึ้นต่อหลังยืนเหนือ 1,400 จุด ตามแรงหนุนตลาดต่างประเทศ-บอนด์ยีลด์ 10 ปีลด หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้าพ่วงดอกเบี้ยขาลง แนะนำลงทุนกล่มค้าปลีก-ไฟแนนซ์ พร้อมให้แนวต้าน 1,410 จุด แนวรับ 1,390 จุด


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (8 ก.พ. 67) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตามตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้า ประกอบกับภาคการส่งออกของประเทศในเอเชียเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่โมเมนตัมบวกจากตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ หลังนายสี จิ้นผิง เข้าหารือกับหน่วยงานเพื่อเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถยืนเหนือ 1,400 จุดได้ โดยให้แนวต้านที่ระดับ 1,410 จุด ส่วนแนวรับที่ระดับ 1,390 จุด ซึ่งยังแนะนำจับตาทิศทางเงินทุนต่างชาติต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าในโซนตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย

ขณะที่บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงระดับโลกเป็นภาพกลางถึงบวก เนื่องจาก การปรับมุมมองตอบรับความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ให้สอดคล้องกับโครงสร้างเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น จากก่อนที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 6 ครั้ง แต่ปัจจุบันปรับลงมา 4 ครั้งเรียบร้อยแล้ว ตามที่ MUFG คาดการณ์ โดยช่วงต้นปีนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นลักษณะ Soft landing เข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างมีศักยภาพ และผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น

ด้านปัจจัยภายในประเทศไทย หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงดอกเบี้ย ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยนโยบายมี downside risk แล้ว ประกอบกับเช้าวันนี้ นักลงทุนซื้อกลับในหุ้นไทย ประกอบกับอัตราพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีปรับลงมาที่ระดับ 2.54% ทำให้ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดูดีขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ปลอดภัย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่ต่างชาติมีโอกาสซื้อสะสม นำโดยกลุ่มค้าปลีก โดยเดือนม.ค. จนถึงเดือนก.พ. นี้ แรงส่งในกลุ่มค้าปลีกดีขึ้น แนะนำเลือกหุ้นที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2566 จะออกมาดี และมีสัญญาณเร่งขึ้นต่อเนื่อง คือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เป็นหุ้นท็อปพิก ให้ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท โดยมีจุดต้านระหว่าง 56-57 บาท เป็นลักษณะของการดึงโพสิชั่นกลับหลังจากรับรู้ปัจจัย over hang ไปแล้ว

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์จะได้ประโยชน์โดยตรงจากดอกเบี้ยขาลง และมีความโดดเด่นทั้งกลุ่ม แนะนำหุ้นของ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD โดยให้จุดต้านที่ระดับ 41.75-43 บาท และจุดรับที่ระดับ 39 บาท

ส่วนกรณีจากการที่ก.ล.ต ส่งสัญญาณมีมาตรการควบคุมการช็อตเซลล์ หรือโรบอทมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าหุ้นที่ถูกช็อตจะค่อยๆฟื้นตัวในระยะสั้น โดยคาดว่าหุ้นที่ราคาปรับลงลึก อาทิ  บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO,  บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC,  บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP, CPALL

รวมถึงบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC และ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ที่มีสัดส่วนช็อตเทียบกับ total value มากกว่า 10% และราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET100 มากว่า 13-23% จะปรับตัวดีขึ้น และคาดการณ์ผลการดำเนินงานจะดีขึ้นเช่นกัน

Back to top button