PRI เป้ารายได้ปีนี้ 2.25 พันล้าน ลุยขยายฐาน-M&A เสริมแกร่ง

PRI เปิดแผนธุรกิจปี 67 ชู 4 กลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร ตั้งเป้ารายได้แตะ 2.25 พันล้านบาท ปูทางสร้างรายได้ประจำอย่างมั่นคง ซุ่มเจรจา 14 พันธมิตร คาดชัดเจนเร็วๆ นี้


นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี​โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตั้งเป้ามีรายได้ที่ระดับ 2,250 ล้านบาท จากโอกาสขยายตัวของกลุ่มธุรกิจใหม่ ตลอดจนการขยายฐานจำนวนลูกค้าโครงการทั้งในกลุ่มต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ (Expanding Our Business Horizon) เพิ่มบริการและธุรกิจใหม่ทั้งกลุ่มบริการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตอบโจทย์ความต้องการของระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์และระบบนิเวศบริการในที่อยู่อาศัย โดยพัฒนามาตรฐานงานบริการเพื่อให้มีอัตราการต่อสัญญาที่สูงมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้เล่นในตลาดใหม่ๆ และทำการเจาะลูกค้ากลุ่ม B2C มากขึ้น อาทิ ธุรกิจตกแต่งภายใน ธุรกิจปรับปรุงภูมิทัศน์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ธุรกิจการจัดการพื้นที่ส่วนกลางอาคารขนาดใหญ่ ขยายการเข้ารับงานจากภาครัฐ และภาครัฐวิสาหกิจ รวมถึงธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ

2.ติดปีกทักษะบุคลากร (People Development) จับมือสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรด้านอสังหาริมทรัพย์ 10 แห่ง อาทิ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมพัฒนาหลักสูตรยกระดับทักษะและองค์ความรู้ให้แก่พนักงานในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มงานที่ปรึกษา กลุ่มงานจัดการอาคาร รวมจำนวน 30 หลักสูตรภายในปีนี้ เพื่ออัปสกิลและรีสกิล (Upskill & Reskil) ให้แก่ทั้งพนักงานปัจจุบัน และพนักงานใหม่ที่จะเข้าทำงาน ให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมการอยู่อาศัยยุคใหม่

โดยพนักงานใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานต่างๆ ได้จำเป็นต้องผ่านการอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 3 หลักสูตร ขณะเดียวกัน ยังได้สร้างความร่วมมือกับกลุ่มสถาบันการศึกษาดังกล่าว นำนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 เข้าร่วมโครงการ Management Trainee กับ PRI เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีทักษะความสามารถตรงสายสามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ PRI ได้และสร้างโอกาสในสายงาน (Career Path) ให้แก่นักศึกษา เพื่อพัฒนาตัวตน นำไปสู่พนักงานผู้ให้บริการมืออาชีพในอนาคต

3.ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ (Enhance Innovation + Technology) กับบริษัท ลิฟเทค แล็บ จำกัด PRI ร่วมทุนด้านเทคโนโลยี ยกระดับการให้บริการผ่านการพัฒนานวัตกรรมและและการเข้าถึงของข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Primo Plus โฉมใหม่ ให้มีฟังก์ชันและประสิทธิภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ อำนวยความสะดวกงานบริการ อาทิ แพลตฟอร์มจองแม่บ้านทำความสะอาด แพลตฟอร์มติดตามงานซ่อมบำรุงอัตโนมัติ ตลอดจนแพลตฟอร์ม การจัดการผู้มาติดต่อภายในโครงการ (Visitor Management) โดยมีแนวคิดจะทำบางแพลตฟอร์มวางจำหน่ายแบบ White Label ด้วย

4.ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG & Sustainability for Future Living) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการจัดการของเสีย (Waste Management) การประหยัดพลังงาน (Energy Saving) ความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ในโครงการที่อยู่อาศัยที่ PRI เข้าไปบริหารจัดการอาคาร

สำหรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัท ยกระดับงานบริการของบริษัทให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าระยะยาว (Retention Rate) เพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ช่วยให้ดูแลผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น และเป็นรากฐานการสร้าง PRI ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากยี้ บริษัทยังมีแผนในการ M&A โดยจะใช้งบลงทุนจากเงินระดมทุนขายไอพีโอ ที่ปัจจุบันเหลืออยู่ราว 800 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีเจรจาอยู่ราว 14 ราย และอยู่ระหว่างคัดเลือกเพื่อหาพันธมิตรที่ตอบโจทย์ และเสริมศักยภาพบริษัทได้มากสุด

โดยปัจจุบัน บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) จำนวน 132 โครงการ อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบ บริการจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร 2.กลุ่มกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) จำนวน 114 โครงการ อาทิ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน บริการอพาร์ตเมนท์แบบพรีเมียม บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และ 3.กลุ่มปลายน้ำ – บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) จำนวน 138 โครงการ อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง บริการออกแบบและตกแต่งภายใน

Back to top button