COCOCO ตั้งเป้าปี 67 ผลิตน้ำมะพร้าว 2.95 แสนตัน หลังรุกตลาดออนไลน์เพิ่ม

COCOCO แย้มผลงานไตรมาส 2/67 สดใส! เร่งออกสินค้าใหม่ ทั้งน้ำมะพร้าว-อาหารสัตว์เลี้ยง-อาหารโปรตีน พร้อมรุกตลาดออนไลน์เพิ่ม ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตน้ำมะพร้าวแตะ 2.95 แสนตันในปี 67 และคาดยอดขายจะเติบโตได้ถึง 100 ล้านภายในปี 69


ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/67 อยู่ที่  203.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.72% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 204.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับรู้จากรายได้จากการขายและบริการของบริษัทฯอยู่ที่ 1,373 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 60.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตในทุกๆผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นยอดขายน้ำมะพร้าว กะทิ รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหาร Plant-based

ขณะที่บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 366 ล้านบาทในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้น 69.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากบริษัทฯ มีการเก็บสต๊อกวัตถุดิบหลักในส่วนของมะพร้าวเพื่อให้เพียงพอต่อการสั่งซื้อลูกค้าเป็นระยะเวลา 6 เดือน (นับตั้งแต่ช่วงต.ค. 66) รวมถึงรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิด economy of scale ของกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ด้านยอดขายของบริษัทฯ นั้นแบ่งออกเป็น การรับจ้างผลิต (Original equipment manufacturer : OEM) อยู่ที่ 96% และแบรนด์ของบริษัทฯเองอยู่ที่  7% ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ส่งออกไปทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกาที่มีการขายเพิ่มขึ้น ยกเว้น ทวีปเอเซีย ที่มียอดขายลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 6.02%

“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 มีการเติบโตได้ทั้งจากปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายและการคาดการณ์ของบริษัทฯ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ยังมีการบริหารด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพ โดยจะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 1/67 (SG&A) เมื่อเทียบกับรายได้รวมอยู่ที่ 12.01% ลดลง 2.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน” ดร.วรวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการทำงานบริษัทฯ ยังคงเป็นที่น่าประทับใจ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิและน้ำมะพร้าว สามารถขยายได้มากถึง 100 ประเทศ และไตรมาส 1/67 บริษัทฯ ได้ร่วมออกงาน 5 งานระดับโลกอาหาร ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น อเมริกาและตะวันออกกลาง และจีน (ตะวันตก) ที่บริษัทฯ มุ่งขยายไปในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอเมริกา

โดยในไตรมาส 1/67 ได้ส่งออกมีน้ำมะพร้าวขายในแอพ AMAZON ของอเมริกาและเริ่มขยายเข้าไปในอินเดียและญี่ปุ่นโดยตรง รวมถึงจีน บรูไน และดูไบที่ได้ขยายเข้าไปแล้ว ส่วนในประเทศ บริษัทฯ เริ่มมีสินค้าขยายเข้าไปให้บริการใน shopee และ LAZADA มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

ดร.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในในไตรมาส 2/67 จะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องเป็นไปตามฤดูกาล และช่วงฤดูร้อน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำมะพร้าวมียอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยบริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Slim can บรรจุกาแฟ และมีแพคเกจจิ้งใหม่ เป็นพลาสติก PET บรรจุน้ำมะพร้าว ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในปลายไตรมาส 2/67 พร้อมกับขยายการตลาดเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ในประเทศมากยิ่งขึ้น

ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้บริษัท ไทย ออซัม จำกัด (ThaiAwesome) คาดการณ์ว่าจะมีกำไรเติบโตได้ในปีนี้ หลังจากอยู่ในฐานที่ต่ำ พร้อมกับเตรียมเปิดตัวสินค้าแบรนด์ MOOCHIE เป็นอาหารเม็ด (เดิมอาหารเปียก), ทูน่า พรีเมี่ยม สำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ และออกสินค้าเชิงวิตามิน หรืออาหารเสริม ภายใต้ชื่อแบรนด์“Vet Moo+” อีกทั้งได้เริ่มให้บริการขายใน AMAZON อเมริกา และขยายเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ภายใต้ชื่อ MOOCHIE Pet food ทั้งนี้ บริษัทฯ มีผู้แทนจำหน่ายแบนด์ MOOCHIE ถึง 24 ประเทศ ส่วนในประเทศปัจจุบันอยู่ที่ 530 สาขา เพื่อหนุนยอดขยายให้เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่บริษัท ไทย แพลนท์ เบส ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่มโปรตีน (Plant based Food) ได้ริเริ่มการทำThai Street food และเริ่มขยายเข้าไปให้ทำการตลาดในห้างยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน 1 พันสาขา คือ Thai Food Stick น้ำมะพร้าว มะม่วงและทุเรียนในรูปแบบแท่ง ภายใต้แบรนด์ “SALA” ที่บริษัทฯ มุ่งนำเสนอความเป็นไทยและผลไม้ไทย

ดร.วรวัฒน์กล่าวเพิ่มว่าปี 67 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวให้ถึง 295,000 ตัน จากเดิมปี 66 อยู่ที่ 107,000 ตัน ซึ่งเป็นการทยอยติดตั้งเครื่องจักรตั้งแต่ไตรมาส 1-3 ของปี 67 รวมถึงในปี 68 จะเพิ่มการผลิตให้อยู่ที่ 366,000 ตัน และในปี 69 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 391,000 ตัน ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นทุกปี เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามา

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคาดการณ์ว่า ยอดขายจะเติบโตได้ถึง 100 ล้านภายในปี 69 โดยมีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้วในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพื้นที่โรงงาน, การสร้างคลังสินค้าใหม่, เตรียมพื้นที่ติดตั้งเครื่องจักรใหม่, การสร้างอาหารผลิตใหม่ และขยายwhare house ประกอบกับการมีผลิตภัณฑ์ในสต๊อกเรียบร้อยแล้วที่คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในปีหน้า รวมถึงการมีตลาดลูกค้ารองรับ

“นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็ยังคงมุ่งเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเติบโตด้านผลการดำเนินงานเช่นกันด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และเพิ่มการใช้ Biomass ให้ได้ถึง 80% โดยใช้กะลาปาล์ม ยกเลิกการใช้ถ่านหิน รวมถึงวัสดุเหลือทิ้งไปหลังคา ร่วมกับบริษัทอื่นๆ เพื่อสร้างประโยชน์มุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 93” ดร.วรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

สรุปข้อมูลสำคัญของบริษัทจดทะเบียนตามรอบบัญชี (Company Snapshot)

Back to top button