“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! หลัง “ศาลอุทธรณ์สหรัฐ” สั่งคืนสถานะ “ภาษีทรัมป์”

ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบในวันนี้ (30 พ.ค.68) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาส 1/2568 นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ

โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,912.49 จุด ลดลง 520.49 จุด หรือ -1.35%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,339.64 จุด ลดลง 233.74 จุด หรือ -0.99% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,358.81 จุด ลดลง 4.64 จุด หรือ -0.14%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดลบ 0.4% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.2%

ขณะที่ นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2568 เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า GDP หดตัว 0.2% ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ระบุว่าหดตัว 0.3% เศรษฐกิจในไตรมาส 1 ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งตัวเลขนำเข้าที่พุ่งขึ้น 42.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 จากการที่บริษัทต่าง ๆ พากันนำเข้าสินค้าก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สั่งระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวในวันพฤหัสบดี (29 พ.ค.) โดยอนุมัติให้มาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์มีผลบังคับใช้ต่อไปได้ หลังจากที่ศาลการค้ามีคำสั่งให้ระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรดังกล่าว

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันระบุว่า จะระงับคำตัดสินของศาลการค้าไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ของฝ่ายรัฐบาล และสั่งให้โจทก์ในคดีนี้ตอบกลับคำสั่งศาลอุทธรณ์ภายในวันที่ 5 มิ.ย. และสั่งให้ฝ่ายรัฐบาลตอบกลับภายในวันที่ 9 มิ.ย.